Académique Documents
Professionnel Documents
Culture Documents
2
เหตุใดจึงตองศึกษา (WHY STUDY?)
งๆ ที่สงั คมของเราใหความสําคัญอยางมากในเรื่องการศึกษา แตกลับเปน
ที่นาแปลกใจวาไมเคยมีเทคโนโลยีของการเรียนหรือเทคโนโลยีของการ
ศึกษาที่แทจริงเลย ฟงดูเหมือนเปนการกลาวเกินความจริง แตนั่นก็เปน
4
อุปสรรคตางๆ ตอการศึกษา
(BARRIERS TO STUDY)
อยางไรก็ตามการเปนนักเรียนที่ประสบความสําเร็จนั้นตองมีมากกวาความเต็มใจที่จะเรียน
หลุมพรางตางๆ นั้นมีอยู และนักเรียนต องรู วิธีที่จะเรียนอยางมี ประสิทธิภาพเพื่อที่จะเอาชนะ
หลุมพรางเหลานั้น
ไดมีการคนพบวามีอุปสรรคที่แนนอนและชัดเจนอยูสามประการ ซึ่งขัดขวางความสามารถ
ในการเรียน รวมทั้ งปดกั้นความสามารถของเขาที่จะไดรับความรู ความเขาใจ อุปสรรคเหลานี้
กอใหเกิดปฏิกิริยาทางรางกายและจิตใจที่แตกตางกันออกไป
ถาเรารูและเขาใจวาอุ ปสรรคเหลานี้ คื ออะไร และทราบวิ ธีที่ จะจัดการกั บอุ ปสรรคเหลานี้
ความสามารถในการศึกษาและเรียนรูของเราก็จะเพิ่มขึ้นเปนอยางมาก
อุปสรรคประการที่หนึ่ง: การขาดแมส
ในเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เรากลาวถึง แมส (mass) และ ซิกนิฟแคนซ (significance)
ของวิชาหนึ่งๆ โดย แมส หมายถึงวัตถุสิ่งของตางๆ ที่มีอยูจริง สิ่งตางๆ ที่มีอยูจริงในชีวิต สวน
ซิ กนิฟแคนซ ของวิชาใดวิ ชาหนึ่งนั้ น หมายถึ ง ความหมายหรือความคิ ดตางๆ หรือทฤษฎีของ
วิชานั้น
การพยายามศึกษาโดยไมมีแมสที่เกี่ยวของกับเทคโนโลยีนั้นๆ จะทําใหการเรียนรูข องนักเรียน
เปนไปอยางยากลําบาก
ถาคุณกําลังเรียนเกี่ยวกับรถแทรกเตอร แมสก็คือรถแทรกเตอร คุณอาจจะอานหนังสือสักเลม
ซึ่งมีเนื้อหาทั้งหมดเกี่ยวกับรถแทรกเตอร วิธีการใชงานและควบคุมอุปกรณเสริมชนิดตางๆ ที่อาจ
นํามาติดตั้งได หรืออีกนัยหนึ่งก็คือซิกนิฟแคนซทั้งหมดเกี่ยวกับรถแทรคเตอร แตคุณนึกออกไหม
วาคุณจะเขาใจไดนอยขนาดไหนหากคุณไมเคยเห็นรถแทรกเตอรมากอนเลย
การขาดแมสลักษณะนั้นสามารถทําใหนักเรียนรูสกึ เหมือนถูกบีบไดจริงๆ และอาจทําใหเขา
ตัวงอ รูสึกหัวหมุน ไมมีชีวิตชีวา เบื่อหนาย และโกรธ
ภาพถายหรือภาพยนตรก็สามารถชวยได เพราะสิ่งเหลานี้แสดงใหเราเห็นถึงสิ่งที่เปนแมส
แตถาคนๆ หนึ่งกําลังเรียนเกี่ยวกับรถแทรกเตอร คําบรรยายทีพ่ ิมพเปนตัวอักษรและการบอกเลา
ดวยคําพูดนั้นไมอาจทดแทนรถแทรกเตอรของจริงได!
5
การไมมีแมสเกี่ยวกับ
สิ่งที่กําลังศึกษาอยู
อาจทําใหผูเรียนตัวงอ
รูส ึกหัวหมุน ไมมชี ีวิตชีวา
เบื่อหนายและโกรธ
คําบรรยายที่พิมพเปน
ตัวอักษรนั้น ไมอาจ
ทดแทนแมสที่เปน
ของจริงได
ซิกนิฟแ คนซ
แมส
6
การใหความรูใครสักคนในเรื่องที่เขาไมมีแมสและไมอาจจัดหาแมสใหกับเขาได สามารถทํา
ใหเกิดปฏิกิรยิ าทางรางกายบางอยางที่กอใหเกิดความอึดอัดและรบกวนสมาธิในการเรียน
ถาคุณพยายามทีจ่ ะสอนใครสักคนเกี่ยวกับรถแทรกเตอร แตคุณไมใหเขาดูรถแทรกเตอรหรือ
ไมปลอยใหเขาไดสัมผัสกับสิ่งที่จับตองไดเกี่ยวกับรถแทรกเตอร ในที่สดุ แลว ใบหนาของเขาก็จะ
ดูเหมือนถูกบีบ เขาจะมีอาการปวดศีรษะและทองไสปนปวน เขาจะรูสกึ มึนงงเปนระยะๆ และบอย
ครั้งเขาจะรูสึกเจ็บตา
นักเรียนไมวาจะอายุเทาใดก็อาจประสบกับอุปสรรคนี้ ได สมมุติวาหนูนอยจอหนนี่ กําลังมี
ปญหาอยางมากกับวิชาบวกลบคูณหารตัวเลขที่โรงเรียน คุณพบวาเขามีโจทยเลขที่เกี่ยวกับลูก
แอปเปล แตบนโตะเรียนของเขาไมเคยมีลูกแอปเปลไวใหนับจํานวน เมื่อนําแอปเปลหลายๆ ลูก
มาใหเขาและทําเครื่องหมายตัวเลขบนแตละลูก คราวนี้เขาก็จะมีลูกแอปเปลจํานวนหนึ่งอยูตรง
หนา จํานวนลูกแอปเปลก็จะไมเปนเพียงทฤษฎีอีกตอไป
ประเด็นก็คือ คุณสามารถยอนกลับไปคนหาปญหาของหนูนอยจอหนนีไ่ ดวาเกิดจากการไมมี
แมส และแกไขไดโดยการจัดหาแมสใหกับเขา หรือคุณอาจจะจัดหาวัตถุสิ่งของหรือสิง่ ทีใ่ ชทดแทน
แมสไดอยางเหมาะสมใหกบั เขาแทนก็ได
อุปสรรคตอการศึกษาขอนี้ คือการเรียนเกี่ยวกับบางสิ่งบางอยางโดยไมมีแมสของสิ่งที่กําลัง
เรียนอยูใกลๆ จะกอใหเกิดปฏิกิริยาตางๆ เหลานี้ ซึ่งสามารถมองเห็นและบงชี้ไดอยางชัดเจน
การแก ไขการขาดแมส
เนื่องจากในการเรียนบางครั้ง เราก็ไมอาจหาแมสของจริงมาดูได จึงไดมีการพัฒนาเครื่องมือ
ที่มีประโยชนขนึ้ มาเพื่อชวยแกไขปญหาการขาดแมส สิง่ เหลานีจ้ ัดอยูภายใตหัวขอเรื่องการสาธิต
คําวา "การสาธิต" (Demonstration) มาจากคําวา Demonstrare ในภาษาละติน แปลวา
"ชี้ใหเห็น แสดง พิสูจน"
พจนานุกรม Chambers 20th Century ไดใหคําจํากัดความของคําวา Demonstrate ไววา
หมายถึง "สอน อธิบาย หรือแสดงใหเห็นโดยวิธีปฏิบตั ิตางๆ"
เราสามารถทําการสาธิตเพือ่ ทีจ่ ะใหมีแมสเกิดขึ้น วิธหี นึง่ ทีใ่ ชไดผลก็คือ การใช "อุปกรณสาธิต"
หรือที่เรียกวา "เดโมคิท (demo kit)" ซึ่งประกอบไปดวยสิ่งของเล็กๆ ชนิดตางๆ เชน จุกไมกอก
ฝาขวด ลวดหนีบกระดาษ ปลอกปากกา ยางรัดของ เปนตน นักเรียนสามารถใชเดโมคิทแทนสิ่ง
ตางๆ ที่เขากําลังเรียนอยู และการทําเชนนี้จะชวยใหเขาเขาใจแนวคิดตางๆ ได
7
การสาธิตแนวคิดดวยอุปกรณชิ้นเล็กๆ หลากหลายชนิดเปนการเพิ่มแมสใหกับสิง่ ที่บคุ คลกําลังเรียนอยู ซึง่ จะชวย
ใหเกิดความเขาใจไดมากยิ่งขึน้
8
?
การรางภาพชวยใหบุคคลสามารถคิดหาวิธตี า งๆ ออกมาได
จุดประสงคของการสาธิตดวยดินน้ํามัน คือ
1. ทําใหสงิ่ ที่กําลังเรียนอยูเปนจริงสําหรับนักเรียน
2. ทําใหเกิดสมดุลที่เหมาะสมระหวางแมส (mass) กับซิกนิฟแคนซ (significance)
3. สอนใหนักเรียนประยุกตใช
ทฤษฎีทั้งหมดเกี่ยวกับการสาธิตดวยดินน้ํามันก็คือ การเพิ่มแมสใหกับนักเรียน
9
บิล
โจ
บิล
ลูก
บอ
ลูก
ล
บอ
ล
ลูกศร
ควา
มค
ิด
10
กลมยาวติดปายวา "ไสดินสอ" ดินน้ํามันชั้นนอกติดปายวา "ไม" ดินน้ํามันทรงกระบอกกลมติด
ปายวา "ยางลบ"
ความเรียบงายและชัดเจน คือสิ่งสําคัญ
เราสามารถใชดนิ น้ํามันสาธิตทุกๆ สิง่ ไดหากเราคิดหาวิธีและตั้งใจทําจริงๆ เพียงแคการคิดหา
วิธที จี่ ะสาธิตสิง่ นั้น หรือใชดนิ น้าํ มันปน สิง่ นัน้ ขึ้นมาแลวติดปายชื่อ ก็สามารถเพิม่ พูนความเขาใจได
ประโยคที่วา "ฉันจะแสดงสิง่ นั้นออกมาใหเห็นดวยดินน้ํามันไดอยางไร" ประโยคนีเ้ ปนเคล็ดลับ
ในการสอน ถาคนๆ หนึง่ สามารถแสดงสิง่ นั้นออกมาใหเห็นไดดวยดินน้ํามัน ก็แสดงวาเขามีความ
เขาใจในสิ่งนั้น หากเขาไมสามารถทําไดก็แสดงวาเขายังไมเขาใจวาสิ่งนั้นคืออะไรอยางแทจริง
ดังนั้นดินน้ํามันและปายชื่อตางๆ จะใชไดผลก็ตอเมื่อคําจํากัดความหรือสิ่งตางๆ นั้นเปนที่เขาใจ
อยางถองแทแลว และการคิดหาวิธปี นสิ่งเหลานั้นขึ้นมาดวยดินน้ํามันก็จะกอใหเกิดความเขาใจใน
สิ่งเหลานั้นได
ศิลปะความงามไมใชจุดประสงคของการพยายามทําเคลเดโม รูปแบบที่ทําเพียงหยาบๆ ก็
ถือวาใชได
แตละสิ่งที่ปนออกมาในเคลเดโมจะตองติดปายบอกวาสิง่ นั้นคืออะไร ไมสําคัญวาปายนั้นจะ
สวยงามหรือไม โดยปกติแลวนักเรียนจะทําปายตางๆ ดวยเศษกระดาษหรือกระดาษแข็งบางๆ
แลวเขียนดวยปากกาลูกลืน่ ในการทําปายใหทําปลายแหลมทีด่ านหนึง่ เพือ่ ใหงา ยที่จะปกปายนั้น
ลงบนดินน้ํามัน
วิธี การทําเคลเดโมควรเป นไปดั งนี้ เมื่ อนักเรียนป นดินน้ํามั นชิ้ นหนึ่ งเสร็จแลวใหติ ดปาย
จากนั้นปนอีกชิ้นหนึ่งแลวติดปาย เสร็จแลวปนชิ้นถัดไปแลวติดปาย ทําเชนนี้เรื่อยไปตามลําดับ
วิธกี ารนีม้ าจากขอมูลทีว่ าการเรียนรูทไี่ ดผลดีทสี่ ดุ จะตองมีความสมดุลระหวางแมสกับซิกนิฟแ คนซ
การมีอยางใดอยางหนึ่งมากเกินไปอาจจะทําใหนักเรียนรูส ึกไมดี ถานักเรียนปน แมสตางๆ ทีเ่ ปน
สวนประกอบในการสาธิตของเขาครบหมดทุกชิ้นภายในครั้งเดียวโดยไมมีการติดปายสิ่งที่ปนแต
ละชิน้ ไวเลย เขาจะนัง่ อยูต รงนัน้ พรอมกับทฤษฎี (ซิกนิฟแ คนซ) ทัง้ หลายกองกันอยูใ นหัวเต็มไปหมด
แทนที่จะคอยๆ ปลอยแตละความคิดลงไปในแตละชิ้นที่เขาปน (โดยการติดปาย) ดังนั้นวิธีการที่
ถูกตองก็คือติดปายลงบนแมสที่เขาปนเมื่อเขาปนเสร็จแตละชิ้น
สิง่ ของ หลักการ หรือการกระทําใดๆ ก็ตามสามารถแทนไดดวยดินน้ํามันและปาย ดินน้ํามัน
จะแสดงสวนตางๆ ของแมส และปายแสดงถึงซิกนิฟแคนซ (significances) หรือความคิด
โดยปกติเราจะใชลูกศรเล็กๆ เพื่อแสดงถึงทิศทางของการเคลื่อนไหวหรือการดําเนินไปของ
บางสิง่ บางอยาง เราอาจจะทําลูกศรดวยดินน้ํามันหรือใชปา ยทําก็ได สิง่ นีเ้ ปนสิง่ สําคัญ การสาธิต
ที่ขาดความชัดเจนในเรือ่ งเสนทางวาเปนไปอยางไรหรืออะไรกําลังดําเนินจากจุดไหนไปยังจุดไหน
ทําใหเรามองไมออกหรือไมเขาใจวาเคลเดโมนัน้ คืออะไร
11
การนําสิง่ ที่กําลัง
คิดหาหนทางอยู
มาทําใหเปนรูปธรรม ?
ที่จบั ตองได จะชวย
ใหบุคคลเขาใจ
ในสิ่งนั้นไดดขี ึ้น
เปนอยางมาก
ภาพยนตร
กลอง
ส
เลน
คลืน แสง
รูปภ
คลืน แสง
าพ
รถยนตร
คลืน แสง
คลืนแสง
12
อุปสรรคประการที่สอง: การขามขั้นตอน
เกรเดียนท (gradient) คือวิธกี ารแบบคอยเปนคอยไปในการทําบางสิง่ บางอยาง โดยทําทีละขัน้
ทีละระดับ และแตละขั้นหรือแตละระดับนั้นไมยากจนเกินไป สามารถทําใหสําเร็จไดอยางงายดาย
เพื่อที่วาทายที่ สุดแลวจะสามารถทําสิ่งที่ยากและซับซอนใหสําเร็จไดงายขึ้น นอกจากนี้คําว า
เกรเดียนทยังใชเรียกแตละลําดับขั้นที่ตองปฏิบัติในวิธีการดังกลาวดวย
ในการศึกษาวิชาใดวิชาหนึ่ง เมือ่ เราประสบกับขั้นตอนทีย่ ากเกินไป ผลทีจ่ ะเกิดขึน้ ก็คอื อาการ
สับสนหรือมึนงง (ความรูสึกนึกคิดหมุนวนไปมา หรือสภาพที่ไมมั่นคง โซเซเหมือนจะลม) นี่คือ
อุปสรรคตอการศึกษาประการที่สอง
วิธีแกไขปญหาเกี่ยวกับขั้นตอนที่ยากเกินไปก็คือ การยอนกลับไปยังเกรเดียนทกอนหนานั้น
ใหคนหาวาตอนไหนที่เขาไมสบั สนเกีย่ วกับเรื่องทีก่ ําลังศึกษา จากนัน้ ใหหาวาสิง่ ใหม (หลังจากนัน้ )
ที่เขาทําคืออะไร ดูวาตรงจุดไหนที่เขารูส ึกวาเขาใจเปนอยางดี กอนที่จะเริ่มสับสนไปหมด
13
อุปสรรคประการที่สามและเปนอุปสรรคที่สําคัญมากที่สุด:
คําศัพทที่ ไมเขาใจ
อุปสรรคต อการศึ กษาประการที่ สามซึ่ งเปนอุ ปสรรคที่ สําคั ญที่ สุด คือคําศั พท ที่ ไม เขาใจ
(misunderstood word) คําศัพทที่ ไมเขาใจหมายถึง คําศั พทที่เราไม ทราบความหมายหรือ
เขาใจความหมายอยางผิดๆ
เมือ่ คนๆ หนึง่ อานขามคําศัพททเี่ ขาไมเขาใจ เขาอาจจะประสบกับปฏิกิรยิ าทางรางกายหลายๆ
อยาง ซึ่งแตกตางโดยสิน้ เชิงกับปฏิกิรยิ าที่เกิดขึ้นจากอุปสรรคสองประการแรก การอานขามคํา-
ศัพทที่ไมเขาใจจะทําใหรูสึกวางเปลาหรือรูสึกเหนื่อยอยางเห็นไดชัด
ความรูสึก "ใจลอย" และอาการวิตกกังวลมากจนเกินควร (nervous hysteria) อาจเกิดขึ้น
ตามมา
ความสับสนหรือความไมสามารถที่จะเขาใจหรือเรียนรู เกิดขึ้นหลังจากคําศัพทที่ผูเรียนไมรู
ความหมายและไมเขาใจ
คําศัพทที่ไมเขาใจเปนอุปสรรคที่สําคัญกวาอุปสรรคสองประการแรกอยางมาก เนื่องจาก
คําศั พทที่ ไม เขาใจเปนสิ่ งที่กําหนดความถนัด หรือความชาเร็วในการเรียนรู และนี่ เองคื อสิ่ งที่
นักจิตวิทยาพยายามทดสอบมาเปนเวลาหลายปโดยไมสามารถระบุไดชัดเจนวาสิ่งนี้คืออะไร
นี่คือที่มาทั้งหมดของความยุงยากมากมายที่เกิดขึ้นในการศึกษา การเรียนโดยขามคําศัพท
ที่ไมเขาใจไปจะกอใหเกิดผลตางๆ ทางจิตใจอยางมากมาย และคําศัพทที่ไมเขาใจนี้เองคือปจจัย
หลักที่เกี่ยวโยงถึงความโงเขลา และสภาวะที่ไมพึงประสงคอื่นๆ อีกนานัปการ
หากคนๆ หนึ่ งเขาใจคําศั พท ทุกคําในเรื่ องที่เรียน ความสามารถพิเศษของเขาในเรื่องนั้ น
อาจจะปรากฏหรือไมก็ได แต สภาวะแหงการทําหรือความสามารถของเขาที่จะลงมือปฏิบัติใน
สิ่งที่เรียนจะปรากฏใหเห็น
คําศัพทที่ไมเขาใจกอใหเกิดปรากฏการณที่แนชัดสองอยางดวยกัน
ปรากฏการณที่หนึ่ง
เมื่ อนั กเรียนไม เข าใจคําๆ หนึ่ ง เนื้ อหาสวนที่ ตามมาหลังจากคําๆ นั้ นจะกลายเปนความ
ว างเปลา (ไมเขาใจหรือจําอะไรไมไดเลย)
คุณสามารถยอนกลับไปยังคําศัพทกอนหนาที่คุณจะรูสึกวางเปลา ทําความเขาใจคําๆ นั้น
แลวคุณจะพบดวยความประหลาดใจวาสิ่งที่คุณเคยรูสึกวางเปลาในเรื่องที่กําลังศึกษากอนหนา
นี้จะไมเปนความวางเปลาอีกตอไป
นี่คือความอัศจรรยอยางแทจริง
14
เครือ่ งยนตจะทํางานได
ไมดี ถาหากถังเชือ้ เพลิง
ไมไดรับการดูแล
เชื้อเพลิง?
อยางเหมาะสม
คุณเคยอานหนังสือไปจนจบหนาแลวพบวาคุณไมรูวาคุณไดอานอะไรไปบางไหม นั่นเปน
เพราะ ณ จุดใดจุดหนึ่งกอนหนานั้น คุณไดอานขามคําศัพทที่คุณไมทราบคําจํากัดความหรือมี
คําจํากัดความที่ไมถูกตองสําหรับศัพทคํานั้น
ตัวอยางเชน "จะพบวาเมื่ออัสดงมาถึง เด็กๆ ก็เงียบลง และเมื่ออัสดงจากไปแลวเด็กๆ ก็มี
ชีวิตชีวาขึ้น" สิง่ ที่เกิดขึ้นคือคุณคิดวาคุณไมเขาใจใจความทั้งหมด แตความไมสามารถที่จะเขาใจ
ประโยคนี้มาจากคําๆ เดียวที่คุณไมรูความหมาย นั่นก็คือคําวา อัสดง ซึ่งหมายถึงเวลาโพลเพล
หรือความมืด
ปรากฏการณที่สอง
การเขาใจคําจํากัดความแบบผิดๆ หรือการไมเขาใจคําจํากัดความเลย หรือการที่ไมไดหาคํา
จํากัดความของคําศัพท สามารถสงผลใหคนๆ หนึ่งลมเลิกการศึกษาในเรื่องๆ หนึ่ง และละทิ้ง
วิชาที่กําลังเรียนหรือชั้นเรียนที่กําลังศึกษาอยูไดเลยทีเดียว เราเรียกการลมเลิกการศึกษากลางคัน
แบบนี้วา โบลว (blow)
เราตางก็เคยรูจักคนที่เริ่มตนเรียนอะไรสักอยางดวยความกระตือรือรน แลวพบในเวลาตอมา
วาบุคคลนั้นเลิกเรียนกลางคันดวยเหตุผลทีว่ าวิชานั้น "นาเบือ่ " หรือ "ไมไดเปนอยางทีพ่ วกเขาคิดไว"
15
พวกเขาตั้งใจวาจะเรียนรูทักษะอะไรสักอยางหรือไปโรงเรียนภาคค่ําเพื่อใหไดปริญญา แตกลับ
ไมเคยเรียนจนจบ ไมวาขออางตางๆ ของพวกเขาจะดูมีเหตุผลเพียงใด ความจริงก็คือพวกเขาได
เลิกเรียนหรือละทิ้งหลักสูตรนั้นซึ่งเปนการโบลว คนๆ หนึ่งจะโบลวก็ดวยเหตุผลหลักเพียงอยาง
เดียวคือ คําศัพทที่ไมเขาใจ
คนๆ หนึ่งไมจําเปนตองโบลวเนื่องจากอุปสรรคอื่นๆ อีกสองประการของการศึกษา คือการ
ขาดแมสหรือขัน้ ตอนที่ยากเกินไป อุปสรรคเหลานีเ้ พียงแคทําใหเกิดอาการทางรางกาย แตคําศัพท
ที่ไมเขาใจสามารถเปนสาเหตุใหนักเรียนโบลวได
การกระทําตางๆ ที่จะเกิดขึ้นตามลําดับที่แนชัดหลังจากผานคําศัพทที่ไมเขาใจ มีดังนี้
เมื่อนักเรียนไมเขาใจคําๆ หนึ่งอยางถองแท เขาก็จะไมเขาใจ (รูสึกวางเปลา) เกี่ยวกับสิ่งที่
อานหรือเรียน ซึ่งอยูถัดจากคําๆ นั้นทันที สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือนักเรียนจะหาทางออกจาก
สภาวะที่เขารูสึกวางเปลาในสิง่ ที่เขาเรียนโดยการปลีกตัวเอง (individuate) ออกจากสภาวะนั้น
ซึ่งนั่นหมายถึง การแยกตัวและถอนตัวจากการเขาไปเกี่ยวของกับสิ่งนั้น
ในขณะที่ นักเรียนแยกตั วออกจากสิ่งที่ เขากําลังเรียนอยู เขาจะไม สนใจนักในสิ่งที่ เขาทํา
เกี่ยวกับวิชานั้น หรือสิง่ ตางๆ หรือกิจกรรมตางๆ ที่เกี่ยวของกับวิชานั้น การแยกตัวหรือแปลกแยก
ออกจากสิ่งที่เรียนนี้เปนทัศนคติและพฤติกรรมที่จะเกิดขึ้นกอนที่เขาจะทําอันตรายตอบางสิ่งหรือ
ตอบางคน
ตัวอยางเชน เด็กนักเรียนที่ไดขามคําศัพททเี่ ขาไมเขาใจความหมายในวิชาหนึ่ง จะไมสนใจวา
อะไรจะเกิดขึ้นในชั้นเรียน เขาอาจจะพูดจาไมดีเกี่ยวกับวิชานั้นใหเพื่อนๆ ฟง และอาจทําลาย
อุปกรณในหองเรียนหรือทําหนังสือเรียนของตนเองหาย
อยางไรก็ตามโดยพื้นฐานแลวคนทุกคนเปนคนดี เมื่อคนๆ หนึ่งกระทําในสิ่งที่เปนอันตราย
หรือสงผลเสียตอผูอื่น เขาจะพยายามหยุดยั้งตัวเองไมใหสรางความเสียหายมากขึ้นไปอีก สิ่งที่
ตามมาก็คือเขาจะมองหาสารพัดวิธีที่ผูอื่น "ทําไมดี" กับเขา เพื่อเปนขออางใหกับการกระทําของ
ตัวเอง และตามดวยการบนวาต างๆ นานา การจับผิดคนอื่นและทัศนคติที่วา "ดูสิเธอทําอะไร
กับฉัน" ปจจัยเหลานี้เปนขออาง (ในใจของนักเรียน) ทีเ่ ขาใชในการละทิง้ การเรียนหรือโบลวนั่นเอง
แตระบบการศึกษาสวนใหญซึ่งไมเห็นชอบกับการโบลวของนักเรียน กลับเปนสาเหตุที่ทําให
นั กเรียนถอนตั วอย างแท จริงออกจากสิ่ งที่ เรียนอยู (อะไรก็ ตามที่ เขากําลังเรียนอยู ) และสราง
เครื่องจักรซึ่งสามารถรับประโยคและกลุม คําตางๆ แลวสงกลับไปเหมือนเดิมขึ้นมาในจิตใจ บุคคล
สามารถสรางเครื่องจักรในจิตใจนี้ขึ้นมาได เมื่อเขาหมดความสนใจในสิ่งที่เขากําลังเรียนอยู แต
รูสึกวาเขายังตองเรียนสิ่งนั้นตอไป
16
ระดับความสูง?
เข็มทิศ?
ใบพัด? âçàÃÕ¹
¡ÒúԹ
17
การเคลียรคําศัพท
(CLEARING WORDS)
คําศัพททไี่ มเขาใจจะยังคงเปนคําทีไ่ มเขาใจจนกระทั่งเราเคลียร (ทําความเขาใจอยางกระจาง
แจงเกี่ยวกับ) ความหมายของคําศัพทคํานั้น ทันทีที่บคุ คลเขาใจคําศัพทคํานั้นอยางสมบูรณแลว
เราเรียกคําศัพทนนั้ วาเปนคําทีเ่ ขาไดเคลียรแลว
วิธีการที่ใชในการคนหาและเคลียรคําศัพทตางๆ ที่นักเรียนไมเขาใจในสิ่งที่เขาเรียน เรียกวา
การเคลียรคําศัพท (Word Clearing) สิ่งแรกที่จะตองเรียนคือ วิธีการที่ถูกตองแมนยําในการ
เคลียรคําศัพทหรือเครื่องหมายตางๆ ที่เราพบในการอานหรือเรียนแลวเราไมเขาใจ เทคโนโลยี
ทั้งหมดของ "การเคลียรคําศัพท" ใชวิธีการดังตอไปนี้
ขั้นตอนการเคลียรคําศัพท
1. ขณะอานหนังสือคุณควรจะมีพจนานุกรมไวใกลมือเสมอ เพื่อที่จะสามารถเคลียรคําศัพท
หรือเครื่องหมายที่คุณไมเขาใจได คุณอาจจะหาพจนานุกรมที่ไมซับซอนแตมีคุณภาพดีสักเลม
หนึ่ ง ซึ่ งให คําจํากั ดความของแต ละคําศัพท ด วยคําที่ เข าใจงาย และไม มี คํายากๆ ซ อนอยู ใน
คําจํากั ดความของคําศัพทที่คุณกําลังทําความเขาใจ
2. เมื่ อคุ ณพบคําหรื อเครื่ องหมายที่ คุ ณไม เข าใจ สิ่ งแรกที่ จะต องทําคื อเปดพจนานุ กรม
หาคําๆ นั้น และดูคําจํากัดความทั้งหมดอยางคราวๆ เพื่อหาวาคําจํากัดความใดเขากับเนื้อหาที่
กําลังกลาวถึง เมื่อพบแลวใหอานคําจํากัดความนั้นและใชคํานัน้ แตงประโยคจนกระทั่งคุณเขาใจ
แนวคิด (concept) ของคําๆ นั้นในความหมายดังกลาว ทั้งนี้คุณอาจจะตองแตงประโยคถึงสิบ
ประโยคหรือมากกวานัน้ ก็ได
3. จากนั้นใหทําความเขาใจกับทุกคําจํากัดความที่เหลือของคําศัพทนั้น โดยแตงประโยค
สำหรับแตละคําจํากัดความจนกระทั่งคุณเขาใจแตละคําจํากัดความอยางถองแท
เมื่อใดที่คําๆ หนึ่งมีหลายคําจํากัดความ คุณไมอาจจํากัดความเขาใจของตัวคุณเองเกี่ยวกับ
คําๆ นั้นไวเพียงแคคําจํากัดความเดียว แลวพูดวาคุณ "เขาใจ" คําๆ นั้นแลว แตคุณจะตองสามารถ
เขาใจคําๆ นั้นเมื่อมันถูกใชตางออกไปในภายหลัง
อยางไรก็ตามอยาเคลียรคําจํากัดความดานเทคนิคหรือคําจํากัดความเฉพาะดาน (เชน คณิต-
ศาสตร ชีววิทยา ฯลฯ) หรือคําจํากัดความทีล่ าสมัย (คําที่ไมใชแลว) หรือโบราณ (เกาแกและไมใช
กั นโดยทั่ วไปแลว) นอกเสียจากว าคําศั พทที่ คุณไม เขาใจนั้ นกําลังถู กใช อยู ในความหมายนั้ น
การทําเชนนั้นอาจจะทําใหเราตองเคลียรคําศัพทที่ไมเขาใจคําอื่นๆ อีกหลายคําที่อยูในคําจํากัด
ความหรือคําอธิบายความหมายของคําเหลานั้น และจะทําใหการเรียนของเราชาลงอยางมาก
18
ถาคนๆ หนึ่งกําลังอานอะไร
สักอยางอยู แลวไมเขาใจ...
...จะตองมีคําศัพทที่เขาไมเขาใจ
Felis
domesticus? กอนหนานั้นในหนังสือ เขาจะตอง
ยอนกลับไปและหาคําศัพทคํานั้น
ใหพบ
เมื่อเขาคนหาคําศัพทนั้นใน
พจนานุกรม และเขาใจ
ความหมายของคําศัพทแลว...
สัตวเลี้ยง
ตระกูลแมว
...ความไมเขาใจจะหายไป
และเขาก็สามารถเรียนคืบหนา
ตอไปได
19
ตัวอยางการเคลียรคําศัพท
ยทำมาหลาย ศ ห ร ื อ ก าซ 2. ช อ งทา
ฉันรูวาเขาเค วามสะอาด ปลองไฟ อา ก า
ณ ะ เด ี ย วกัน 3. ทอ
โด ย
ำค ั ก ษ
งาน เขาเคยท ียงปากทอง นันไมใช ห ร ื อส ิ ง อื น ๆ
ล
r. fl uie, a
flow in g]
) เพือเล กับเขา ญ F
ในวัยเดียวกัน าดให [O
(chimney
ย ส ำ ห ร ั บ ค น เฉพาะ ทีม ีขน แก น
เรืองธรรมดา
เล ในศ ตวรรษ อ งเ ครือ งอ อร
งวีเพอะอย ำ ั ท อ เส ี ย ง ข
■ สมมติวา คุณกําลังอานประโยค "เขาเคยทําความสะอาดปลองไฟ ■ ตอจากนัน้ ใหอา นรากศัพทของคําวา "flue" ที่พจนานุกรมอธิบาย
(chimney) เพือ่ เลี้ยงปากทอง"
แลวคุณไมแนใจวา "chimneys" ไว เมื่อถึงตรงนี้กลับไปที่คําวา "chimney" ตอนนี้คณ ุ จะสามารถ
หมายความวาอะไร เขาใจคําจํากัดความที่วา "ทอ (flue) สําหรับใหควันหรือกาซจาก
เปลวเพลิงลอยขึน้ " แลวอันดับตอไปก็ใหคณ ุ ใชคาํ วา chimney แตง
ประโยค จนกระทัง่ คุณไดแนวคิดและภาพของคําๆ นี้
(ชม -น) 1.
นาการ chimney
ยขึน 2. ฝาคร
อบ
ไมจริง, จินต อ
(f lue) สำ
หรบั ใหควัน ล วเ พ ล ง
ิ ล อ
(ชิม-น )
ี 1 . ท รอบ หรือกาซจากเป ิดตามหนาผา
สูง
chimney
ว เพ ล ง
ิ ล อ ยขึน 2. ฝาค า งนำม น
ั 3. ช อ
งเ ป
เป ล
หรือกาซจาก ำมัน 3. ชองเปิดตามหนา
ผ กระจกตะเกีย ata, เตาผิง
r . LL camin
งน าไฟ F
หรือปลองภูเข
[O
กระ จกตะ เกยี ื ปลองภเขาไฟ ace]
■ คุณหาความหมายในพจนานุกรม แลวดูคําจํากัดความตางๆ ■ ตอไปใหคณ
ุ เคลียรคาํ จํากัดความอืน่ ๆ ของคําวา chimney
เพื่อหาคําจํากัดความที่เหมาะสม พจนานุกรมอธิบายไววา ถาพจนานุกรมที่คุณใชอยูมีคําจํากัดความเฉพาะดานหรือ
"ทอ (flue) สําหรับใหควันหรือกาซจากเปลวเพลิงลอยขึน้ ” คําจํากัดความทีเ่ ลิกใชแลว ใหคณ
ุ ขามคําจํากัดความเหลานัน้ ไป
เพราะวาคําจํากัดความเหลานั้นไมไดมกี ารใชกันโดยทั่วไป
หรอกาซ าสู
n (นาม) ควัน ม น
ั 3 . ช อ
งเปิดตามหนาผ
fluctuatio รือทางระบาย าซ งนำ ผิง
าม 1 . ช อ งห กระจกตะเกีย r . LL cam
inata, เตา
flue (ฟล ู)
น ากาศ ก ไฟ F
ชองทางเดินอ อ โดย หรือปลองภูเข
า [O
ร อ
ื ก า
ซ 2. ลอม]
อ า กา ศ ห 3. ท inos, เตาห
ิ ง อ ื น ๆ ล ั ก ษ ณ ะ เด ียวกัน L. caminu
s G r. ka m
ส ถานทีซึงอยูใก
ลไฟ
ห ร ื อส ี ีขน าดใหญ
างข องเ ต าผ ง
ิ
■ คุณไมแนใจวา "flue" หมายความวาอะไร คุณจึงคนหาความ- ■ ถึงตอนนี้ใหเคลียรรากศัพทดว ย คุณพบวา "chimney" นั้น
หมาย พจนานุกรมอธิบายไววา "ชองหรือทางระบายควัน อากาศ มาจากภาษากรีก คําวา "kaminos" ซึง่ หมายถึง "เตาหลอม" หาก
หรือกาซ" ซึง่ เปนความหมายที่เขากันกับประโยคและอานแลวได คําศัพทคาํ นัน้ มีหมายเหตุใดๆ เกีย่ วกับวิธีการใช คําทีม่ คี วามหมาย
ใจความ คุณจึงใชคาํ วา "flue" แตงประโยคสักจํานวนหนึง่ จน- ใกลเคียงกันหรือสํานวน ก็ใหคุณเคลียรสิ่งเหลานั้นทั้งหมดดวย
กระทั่งคุณไดแนวคิดและภาพ (concept)ทีช่ ดั เจนเกีย่ วกับคําๆ นี้ นั่นคือขัน้ ตอนสุดทายของการเคลียรคําวา "chimney"
flue (ฟลู) นาม 1. ช
งทางเดินอากาศ กาซ
อากาศ หรือกาซ 2. ชอ
ียวกัน 3. ทอ โดย
หรือสิงอืนๆ ลักษณะเด ] ที่กลาวมาขางตนคือ วิธีที่ควรใชในการเคลียรคําศัพท
Fr. fluie, a flowing
เฉพาะทีมีขนาดใหญ [O เมื่อคําศัพทตางๆ เปนที่เขาใจแลว การสื่อสารก็จะเกิดขึ้นได
■ คําวา "flue" ในพจนานุกรมนี้ยังมีคําจํากัดความอื่นๆ อีก และดวยการสื่อสาร ไมวา วิชาใดๆ ก็สามารถเปนที่เขาใจได
ซึ่งคุณจะตองเคลียรแตละคําจํากัดความ และแตงประโยคดวย
20
4. อันดับตอไปคือ ทําความเขาใจรากศัพทซึ่งเปนการอธิบายถึงทีม่ าของคําๆ นั้น สิ่งนี้จะชวย
ใหคุณไดความเขาใจเบื้องตนเกี่ยวกับคําๆ นั้น
5. พจนานุกรมสวนใหญจะใหสํานวนของคําๆ นั้น สํานวนก็คือวลีหรือคําพูดที่ไมไดมีความ
หมายตรงตามความหมายทั่วๆ ไปของคําๆ นั้น ตัวอยางเชน "ปลูกเรือนครอมตอ" เปนสํานวน
หมายถึง "กระทําสิ่งซึ่งลวงล้ํา กาวกาย หรือทับสิทธิของผูอื่น จะโดยรูเทาถึงการณหรือไมก็ตาม"
มีคําไมนอ ยทีเดียวทีม่ ีการใชในรูปของสํานวน และพจนานุกรมมักจะอธิบายความหมายของสํานวน
เหลานี้ตอทายคําจํากัดความของคําๆ นั้น ถาคําศัพทที่คุณกําลังเคลียรอยูนั้นมีสํานวนอยู ก็ให
คุณเคลียรสํานวนเหลานั้นดวย
6. ใหทําความเขาใจขอมูลอื่นๆ ที่ใหไวเกี่ยวกับคํานั้น เชน วิธีการใชคําที่มีความหมายคลาย
หรือใกลเคียงกัน (synonyms) ฯลฯ เพื่อที่คุณจะไดเขาใจคําๆ นัน้ อยางถองแท (synonym คือ
คําศัพทที่มคี วามหมายคลายกัน แตไมไดมีความหมายเหมือนกับอีกคําหนึ่ง ดังตัวอยางเชน "ผอม"
และ "ซูบซีด" )
7. ถาคุณพบคําศัพทหรือเครื่องหมายที่คุณไมเขาใจในคําจํากัดความของคําศัพทที่คุณกําลัง
เคลียรอยู คุณจะตองทําความเขาใจคําศัพทหรือเครือ่ งหมายนั้นทันทีโดยใชวิธีการเดียวกันนี้ แลว
จึ งคอยกลับไปยังคําจํากัดความของคําศั พท เดิ มที่คุ ณเคลียรค างไว (โดยปกติ แลวคําอธิบาย
เครื่องหมายและตัวยอตางๆ ที่ใชในพจนานุกรมเลมหนึง่ ๆ มักจะระบุไวทดี่ านหนาของพจนานุกรม
เลมนั้น) อยางไรก็ตามถาคุณพบวาตัวคุณเองกําลังใชเวลาไปกับการเคลียรคําศัพทที่อยูในคํา
อธิบายความหมายของคําศัพทตางๆ มากจนเกินไป คุณควรจะเปลี่ยนไปใชพจนานุกรมที่งาย
กวานัน้ พจนานุกรมทีด่ ีจะชวยใหคณุ เคลียรคําศัพทไดโดยไมตองทําการคนหาคําศัพทอนื่ ๆ มากนัก
คําศัพทงายๆ
คุณอาจจะคิดขึ้นมาทันทีวา คําศัพทสวนใหญที่เรามักจะไมเขาใจหรือเขาใจผิดจะตองเปน
คำยาวๆ ยากๆ หรือคําศัพทเทคนิค
แตจริงๆ แลว ไมไดเปนเชนนั้น
เวลาที่ทําการเคลียรคําศัพทใหกับนักเรียน เรามักจะพบอยู บอยครั้งวา คําศัพทตางๆ เช น
"ก็" "นั้น" "อยู" "จึง" และคําศัพทอื่นๆ ประเภท "ใครๆ ก็ร"ู นัน้ มักจะเปนคําที่นักเรียนเขาใจผิด
เรื่องแปลกก็คือตองเปนพจนานุกรมเลมใหญจึงจะอธิบายคํางายๆ เหลานี้ไวอยางสมบูรณ
เพราะพจนานุกรมเลมเล็กทั้งหลายก็คิดวา "ใครๆ ก็รูวาคําศัพทคํานั้นหมายความวาอะไร" เชน
เดียวกัน
แทบเปนเรื่องไมนาเชื่อเลย เมื่อพบวาผูที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยผูหนึ่งซึ่งใชเวลาป
แลวปเลาศึกษาวิชาที่ซับซอนตางๆ หลายวิชา แตไมรูวา "และ" หรือ "โดย" หรือ "อัน" หมายความ
21
วาอะไร เรื่องแบบนี้เราคงตองเห็นดวยตนเองจึงจะเชื่อ กระนั้นก็ตามเมื่อทําความเขาใจคําเหลา
นั้นแลว ความไมเขาใจที่ทับถมมาตลอดการศึกษาของเขาก็เปลีย่ นไปเปนภาพที่ชัดเจนและเปน
ประโยชน
การทดสอบเด็กนักเรียนในเมืองโยฮันเนสเบิรก ประเทศแอฟริกาใต ครั้งหนึ่งแสดงใหเห็นวา
สติปญญาของนักเรียนลดนอยถอยลงในทุกปการศึกษาใหม!
คําตอบงายๆ ของความนาฉงนนี้ก็คอื ในแตละปการศึกษาใหมจะมีการเพิม่ คําศัพททไี่ มเขาใจ
ซึ่งมีผลกระทบขั้นรุนแรงตอเด็กอีกมากมายหลายคํา เขาไปทับถมกับคําศัพทบางคําที่เด็กๆ สับสน
อยูกอนหนานี้แลว โดยทีไ่ มเคยมีใครสนใจใหพวกเขาคนหาความหมายของคําเหลานั้น
ความโงเขลาเปนผลที่ เกิ ดขึ้ นจากคําศัพทที่ ไม เขาใจ คุ ณจะพบว าในสาขาวิ ชาหรือเรื่ องที่
คนเรามีปญหามากที่สุดนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงขอเท็จจริงไปมากที่สุด มีแนวคิดที่สับสนและ
ขัดแยงกันอยูมากที่สุด และแนนอนวามีจํานวนคําศัพทที่ไมเขาใจอยูมากที่สดุ เชนกัน
คําศัพทแรกสุดที่ไมเขาใจในวิชาหนึ่งๆ เปนกุญแจสําคัญในการแกปญหา
คําศัพทที่ไมเขาใจคําอื่นๆ ที่ตามมาในวิชานั้น
ในการศึกษาภาษาตางประเทศ บอยครั้งพบวาคําศัพทไวยากรณตางๆ ที่แปลจากภาษาตาง
ประเทศมาเปนภาษาแมของผูเรียน ซึ่งอธิบายถึงหลักไวยากรณของภาษาตางประเทศภาษานัน้
คือสาเหตุพนื้ ฐานที่ทําใหการเรียนรูภาษานั้นไมประสบผลสําเร็จ
เปนเรื่องสําคัญที่เราจะตองเคลียรคําศัพททไี่ มเขาใจเหลานี้
22
วิธตี า งๆ ในการเคลียรคาํ ศัพท
(METHODS OF WORD CLEARING)
ในไซแอนโทโลยี ไดมีการคิดคนวิธกี ารตางๆ ขึน้ เกาวิธี เพือ่ ใชในการเคลียรความหมายของคํา
ทั้งเก าวิธีนี้ ครอบคลุมหลากหลายรูปแบบในการคนหาคําศัพทที่ ไมเขาใจ ซึ่ งเปนที่มาของ
ความยุงยากนานาประการของบุคคล โดยมีตั้งแตการคนหาคําศัพทที่ไมเขาใจในหนังสือที่ผูเรียน
กําลังเรี ยนอยู ไปจนถึ งการเคลียรคําศัพท สําคัญที่ เกี่ ยวเนื่ องกั บงานของคนๆ นั้ น รวมไปถึ ง
กระทั่งการไลยอนกลับไปยังคําศัพทตางๆ ที่ไมเขาใจหรือที่เขาใจผิดในวิชาตางๆ ซึ่งผูเรียนเคย
เรียนมาในช วงหลายปกอนหนานี้!
สามวิธีของการเคลียรคําศัพทที่นําไปประยุกตใชไดเปนอยางดีในชีวิตประจําวัน ไดอธิบายไว
ตอจากนี้
23
ใครสักคนควรจะใหเขาค นหาคําศั พท ที่ เขาไม เข าใจก อนหน าที่ เขาจะมีอาการนั้ นตั้ งนานแลว
เวลาที่นักเรียนควรหาคําศัพทที่ ไมเขาใจก็คือทันทีที่นักเรียนเรียนไดชาลง หรือมีทาทางไมคอย
"แจมใส" เหมือนเมื่อสิบหานาทีที่แลว สิ่งที่เขาไมเขาใจนั้นไมใชวลี ความคิด หรือแนวคิด แตเปน
คําศัพทซึ่งเขาไมเขาใจ สิง่ นี้เกิดขึ้นกอนที่จะมีความไมเขาใจในวิชานั้นเกิดขึ้นเสมอ
การเคลียรคําศัพทขั้นพื้นฐานจะตองปฏิบัติดังนี้
4. ใหนักเรียนหาความหมายของคําศัพทที่ไมเขาใจในพจนานุกรม และทําความเขาใจคําๆ
นั้นตามขั้นตอนของการเคลียรคําศัพทที่อธิบายไวขางต น จากนั้นใหนักเรียนพูดประโยคตางๆ
ที่ เขาแต งขึ้ นมาเองโดยใช คําๆ นั้ นหลายๆ ครั้ ง จนกระทั่ งเขาแสดงให เห็นอย างชั ดเจนว าเขา
เข าใจคําๆ นั้นอยางถองแทแลวดวยประโยคตางๆ ที่เขาแตงขึ้นมา
24
วิธีเคลียรคําศัพทที่ดีก็คือ การใชระบบของการยอนกลับไปหาสาเหตุ คุณตองมองยอนกลับ
ไปยังเนื้อหากอนหนาจุดที่นักเรียนเขาใจไดชาหรือสับสน แลวคุณจะพบวามีคําศัพททเี่ ขาไมเขาใจ
ที่ใดที่หนึ่งกอนที่ปญหานั้นจะเกิดขึ้น เมื่อพบและทําความเขาใจคํานั้นแลวแตเขายังไมแจมใสขึ้น
แสดงวาเขายังมีคําที่ไมเขาใจอยูกอนหนาคําๆ นั้นอีก
คุณจะเขาใจสิ่งที่กลาวมานี้ไดอยางกระจางชัด ถาคุณเขาใจวาหากสิ่งที่ดูเหมือนวาจะเปน
ปญหาของนักเรียนในขณะนั้นยังคงแกไมได นั่นแสดงวามันไมใชปญหาที่แทจริงของเขา ไมเชน
นั้นปญหาก็นาจะแกไขไดแลว จริงหรือไม ถาเขารูว าอะไรคือสิ่งที่เขาไมเขาใจ เขาก็จะสามารถ
แกปญ หาไดดวยตัวเอง ดังนั้นการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิดวาเขาไมเขาใจนั้น ไมไดชวยอะไรเลย
เพราะปญหาที่แทจริงไดเกิดขึ้นกอนหนานั้น
ใน “การเคลียรคําศัพท
ขัน้ พื้นฐาน” นักเรียน
จะตองดูในเนื้อหา
กอนหนานั้น เพื่อคนหา
คําศัพทที่ไมเขาใจ
คําศัพทที่ไมเขาใจ
จะอยูในเนื้อหา
กอนหนาที่นักเรียน
อานอยูในขณะนั้น
เสมอ
การคนหาตําแหนงคําศัพทที่ไมเขาใจ
สูตรคือ หาดูวาตรงจุดไหนที่นักเรียนเรียนไดอยางไมมีปญหา และตรงจุดไหนที่นักเรียนกําลัง
มีปญ หาอยูในขณะนั้น คําศัพททไี่ มเขาใจจะอยูระหวางจุดสองจุดนั้น มันจะอยูที่สว นทายสุดของ
บริเวณที่เขาเรียนไดอยางไมมีปญหา
การเคลียรคําศัพทขั้นพื้นฐานจะมีประสิทธิภาพอยางยิ่ง ถาทําตามขั้นตอนทีอ่ ธิบายไวในที่นี้
25
การเคลียรคําศัพทโดยวิธีอานออกเสียง
วิธีทมี่ ีประสิทธิภาพมากๆ วิธีหนึ่ง ในการคนหาคําศัพทที่ผเู รียนไมเขาใจในหนังสือหรือเอกสาร
อื่นๆ คือวิธีที่เรียกวา “การเคลียรคําศัพทโดยวิธีอานออกเสียง”
เมื่อนักเรียนอานหนังสือดวยตัวเขาเอง บอยครั้งทีเดียวที่เขาไมรูวาเขาไดอานขามคําศัพทที่
เขาไมเขาใจไป แตเมื่อใดก็ตามที่เขาขามคําศัพทตางๆ ที่เขาไมเขาใจไป เขาก็จะมีปญหากับสิ่ง
ที่เขากําลังอานในขณะนัน้
ในการเคลียรคําศัพทโดยวิธีอานออกเสียง เราจะตองใหผูรับการเคลียรคําศัพทอานออกเสียง
เนื้อหาที่เขาเรียน บุคคลที่ ฟงนักเรียนอานออกเสียงจะชวยนักเรียนคนหาและเคลียรคําศัพทที่
ไม เขาใจ เราเรียกเขาอย างเหมาะสมตามหนาที่ นี้ วา เวิ รดเคลียเรอร (word clearer: ผูชวย
เคลียรคําศัพท)
โดยทั่วไปแลวนักเรียนสองคนจะผลัดกันทําการเคลียรคําศัพทดวยวิธีอานออกเสียง กลาวคือ
นักเรียนคนแรกทําหนาที่เปนเวิรดเคลียเรอร และเคลียรคําศัพทใหกับนักเรียนอีกคนหนึ่ง จากนั้น
ก็สลับกัน โดยนักเรียนที่ไดรับการเคลียรคําศัพทเรียบรอยแลวเปลี่ยนไปเปนเวิรดเคลียเรอรบาง
และเคลียรคําศัพทใหกับเพื่อนของเขา
คําศัพทที่ไมเขาใจนั้นมีหลายลักษณะ ถือเปนเรื่องสําคัญสําหรับบุคคลที่กําลังทําการเคลียร
คําศัพทโดยวิธีอานออกเสียงที่จะตองรูจักประเภทตางๆ ของคําศัพทที่ไมเขาใจ เราอาจไมเขาใจ
หรือเขาใจคําๆ หนึ่งผิด เนื่องจากเหตุผลดังตอไปนี้
1. คําจํากัดความทีผ่ ดิ (ผิดโดยสิ้นเชิง) เชน เมื่ออานหรือไดยินคําวา "แมว" และคิดวา "แมว"
หมายถึง "กลอง" คุณไมสามารถจะแปลความหมายผิดไดมากไปกวานี้อีกแลว
2. คําจํากัดความที่คิดขึ้นมาเอง เช น คนที่สมัยเปนวัยรุนมักถูกเพื่อนเรียกวา "เด็กผูหญิง"
ทุกครั้งที่เขาปฏิเสธที่จะทําสิ่งที่ ทาทาย เขาจึงคิดวาคําจํากัดความของคําวา "เด็ กผูหญิง" คือ
"คนขี้ขลาด"
3. คําจํากัดความที่ ไม ถูกตอง เชน เมื่ ออานหรื อได ยินคําว า "คอมพิ วเตอร" แลวคิดว าเปน
"เครื่องพิมพดีด" นี่คือความหมายที่ไมถูกตองสําหรับ "คอมพิวเตอร" ถึงแมวาทั้งเครื่องพิมพดีด
และคอมพิวเตอรจะเปนประเภทของเครื่องกลเหมือนกัน
4. คําจํากัดความที่ไมสมบู รณ เช น เมื่ ออ านคําวา "สํานักงาน" แลวคิดว าหมายถึ ง "หอง"
แตคําวา "สํานักงาน" หมายถึง "อาคาร หอง หรือหองชุด ซึ่งเปนที่ประกอบการของธุรกิจหนึ่งๆ
ของผูประกอบวิชาชีพหรือหนวยงานของรัฐบาล ฯลฯ " การใหความหมายของคําวา "สํานักงาน"
เชนนี้ จึงถือวาไมสมบูรณ
5. คําจํากัดความทีไ่ มเหมาะสม เชน เมือ่ เห็นเสนขีดเล็กๆ (-) ในประโยค "ฉันทําขอ 3-7 เสร็จ
แลววันนี"้ แลวคิดวาเสนขีดเล็กๆ นัน้ เปนเครือ่ งหมายลบ แตกร็ ูวา เราไมสามารถลบ 7 ออกจาก 3 ได
จึงไมสามารถเขาใจประโยคนี้ได
26
การเขียนแบบ? ¡ÒÃà¢Õ¹Ẻ
ÁÕ¤ÇÒÁÊÓ¤Ñ−µèÍ
ʶһ¹Ô¡
การเขียนแบบ!
พจนานุกรม
เหตุใดการเคลียรคําศัพทโดยวิธีอานออกเสียงจึงใช ไดผล
นักเรียนที่เขาใจคําศัพททั้งหมดในหนาหนังสือที่เขากําลังอานอยู จะสามารถอานออกเสียง
หนานั้นไดอยางถูกตองสมบูรณ เขาจะรูสกึ สดชื่นและตื่นตัว และจะเขาใจในสิง่ ที่เขาอานไดเปน
อยางดี แตเมื่อนักเรียนอานผานคําศัพทหรือเครื่องหมายที่เขาไมเขาใจไป ความไมเขาใจนั้นจะ
เปนสาเหตุทําใหเสียงของเขาสะดุดหรือเกิดสภาวะทางรางกาย เสียงของเขาอาจจะเปลี่ยนไป
หรือเขาอาจจะอานตะกุกตะกัก ทําหนาตาแปลกๆ ชําเลืองมอง หรือมีปฏิกิริยาอื่นๆ
เรื่องนี้เขาใจไดไมยาก หากคุณจําไดวาบุคคลหนึ่งสามารถรูสึกวางเปลาไดหลังจากที่เขาได
อานขามคําศัพทหรือเครื่องหมายที่เขาไมเขาใจไป เขาอาจจะทําอะไรผิดพลาด ณ จุ ดที่ เขาไม
เขาใจนัน้ หรือเขาอาจจะยังคงอานตอไปได โดยผานเลยคําศัพทหรือเครือ่ งหมายที่เขาไมเขาใจนั้น
28
"ในการดี ด "เราใช สติ๊ ก..."
สายกี ต าร ..." เอ อ อ า ฉั น หมายถึ ง "ป ก"
แลวไปพลาดที่คําหรือเครื่องหมายอื่นในภายหลัง เขาจะรูสึกไมแจมใสและเขาใจไดชาลงเรื่อยๆ
และเขาจะพยายามแกไขความรูสึกตื้อๆ นั้นดวยการใชความพยายามมากขึ้นในขณะที่อาน สิง่ นี้
จะปรากฏออกมาในลักษณะของอาการที่ไมพงึ ประสงคอยางใดอยางหนึ่งเสมอ ซึ่งเวิรด เคลียเรอร
จะตองสังเกตใหเห็นและจัดการแกไขทันที
ปฏิกิริยาที่ ไม พึงประสงคคื อ สิ่ งใดก็ตามที่ นักเรียนทํานอกเหนือไปจากการอานหนั งสือได
อยางงายดาย เปนธรรมชาติและสมบูรณแบบ ตัวอยางของปฏิกิริยาที่ไมพงึ ประสงคบางประการ
ซึ่งอาจแสดงออกมาใหเห็นคือ
1. นักเรียนเพิม่ คําศัพทหรือละคําศัพทหรือเปลี่ยนคําศัพทในประโยคที่เขากําลังอานอยู
2. นักเรียนอานคําศัพทตะกุกตะกัก หรือออกเสียงไมถูกตอง
3. นักเรียนหยุดอาน หรืออานชาลงมาก
4. นักเรียนขมวดคิ้ว หรือดูเหมือนไมแนใจ
29
5. นักเรียนเริ่มมีอาการตัวแข็ง หรือเกร็งบางสวนของรางกาย เชน ชําเลืองตา จับหรือยึดบาง
อยางแนน หรือกัดริมฝปาก หรือมีปฏิกิรยิ าทางรางกายอื่นๆ บางอยาง
6. นักเรียนอานดวยความพยายาม
30
วิธีปฏิบัติ
1. นักเรียนและเวิรดเคลียเรอรนั่งหันหนาเขาหากัน
ใหนักเรียนและเวิรดเคลียเรอรนั่งหันหนาเขาหากันที่โตะตัวหนึ่ง แตละคนจะมีหนังสือของ
ตนเองที่ จะใชในการเคลียรคําศั พท เวิ รดเคลียเรอรจะตองสามารถมองเห็นนักเรียนและหนา
กระดาษที่นักเรียนกําลังอานไปดวยในเวลาเดียวกัน
2. เตรียมพจนานุกรมใหพรอม
ตองเตรียมพจนานุกรมดีๆ ที่เขาใจงาย และพจนานุกรมอืน่ ๆ ที่นักเรียนอาจจําเปนตองใชเอา
ไวใหพรอม (ที่สําคัญที่สดุ อยาใชแบบที่เรียกวา "พจนานุกรมฉบับยอ" พจนานุกรมประเภทนี้แตก
ตางจากพจนานุกรมอยางงายๆ ที่อธิบายคําศัพทไวเปนอยางดี "พจนานุกรมฉบับยอ" เปนพจนา-
นุกรมที่คุณพบไดโดยทั่วไปในรูปปกออนตามชั้นหนังสือในรานขายยา "พจนานุกรมฉบับยอ" มัก
จะใหความหมายของคําศัพท "ก" วาหมายถึงคําศัพท "ข" แลวก็ใหความหมายของคําศัพท "ข" วา
หมายถึงคําศัพท "ก" นอกจากนี้ "พจนานุกรมฉบับยอ" ยังไมใหคําจํากัดความอืน่ ๆ นอกเหนือไป
จากคําจํากัดความทีใ่ ชกันโดยทั่วไป และยังไมใหคําจํากัดความทางดานเทคนิคอีกดวย)
3. นักเรียนตองรูว าคําศัพทคําใดเปนคําที่ไมเขาใจ
กอนทีน่ กั เรียนจะเริ่มอาน ควรจะบอกเขากอนวาถาเขาอานตรงสวนใดแลวไมเขาใจอยางถองแท
เขาควรจะบอกเวิรดเคลียเรอร หรือถาเขาเห็นคําศัพททเี่ ขาไมรูความหมาย เขาควรจะหยุดและคนหา
ความหมาย แลวทําความเขาใจคําศัพทนั้น แทนทีจ่ ะอานขามคําๆ นัน้ ไป ควรสนับสนุนและกระตุน
ใหนักเรียนคนหาความหมายและทําความเขาใจคําศัพทที่ไมเขาใจตางๆ ดวยตัวของเขาเอง ใน
การเคลียรคําศัพทวิธีนี้ เวิรดเคลียเรอรจะตองไมขัดขวางนักเรียนในการเคลียรคําศัพทที่นักเรียน
เห็นวาเปนคําที่เขาไมเขาใจ การเคลียรคําศัพทโดยวิธีอานออกเสียงนี้จะทําใหนักเรียนสามารถ
มองเห็นคําศัพทที่เขาไมเขาใจ เพื่อที่ วานักเรียนจะไดคนหาและทําความเขาใจคําศัพทที่เขาไม
เขาใจดวยตัวเองไดในอนาคต
4. นักเรียนอานออกเสียงใหเวิรด เคลียเรอรฟง
นักเรียนอานออกเสียงใหเวิรดเคลียเรอรฟง ขณะที่นักเรียนอาน เวิรดเคลียเรอรก็มองตาม
เนือ้ หาเดียวกันในฉบับของตน พรอมกับดูและฟงสิง่ ทีน่ ักเรียนอานไปดวย
เวิรดเคลียเรอรจะตองตื่นตัวอยางมาก และฟงหรือมองดูทุกๆ ปฏิกิริยาที่ไมพึงประสงคของ
นักเรียนในขณะที่เขากําลังอาน
5. ปฏิกิริยาทีไ่ มพึงประสงคแสดงถึงคําศัพทที่ไมเขาใจ
ปฏิกิรยิ าทีไ่ มพงึ ประสงคของนักเรียนที่มตี อสิง่ ที่เขากําลังอาน เปนสัญญาณบอกเวิรดเคลียเรอร
วานักเรียนไดพบกับคําศัพทที่ไมเขาใจเขาแลว เมื่อเปนเชนนั้น เวิรดเคลียเรอรและนักเรียนจะตอง
31
คนหาใหแนชัดวาคําศัพทหรือเครือ่ งหมายใดที่ไมเปนที่เขาใจ ซึ่งจะหาพบไดกอนหนาหรือบางครั้ง
ก็ตรงจุดที่เกิดปฏิกิรยิ าที่ไมเหมาะสมนั้น
6. คนหาคําศัพททไี่ มเขาใจ
หากนักเรียนไมรูตวั วาเขาแสดงปฏิกิรยิ าบางอยางออกมาและยังคงอานตอไป ใหเวิรด เคลียเรอร
พูดวา "พอกอน มีคําศัพทหรือเครื่องหมายที่คุณไมเขาใจตรงจุดนั้นไหม" เวิรดเคลียเรอรมีหนาที่
ชี้แนะใหนักเรียนเห็นถึงความไมเขาใจนั้น คําศัพทที่ไมเขาใจจะอยูตรงจุดที่เกิดปฏิกิริยาที่ไมพึง
ประสงคหรือไมก็กอนหนานั้น ประเด็นสําคัญก็คือ นักเรียนจะตองไดรับการชี้แนะไปที่คําศัพทที่
เขาไมเขาใจ เพื่อที่จากนั้นจะไดทําการคนหาความหมายตอไป
นักเรียนอาจจะชี้คําศัพทที่ไมเขาใจไดทันที และบอกเวิรดเคลียเรอรไดวาคําไหน หรือนักเรียน
อาจมีปญหาในการคนหาคําศัพทที่เขาไมเขาใจ และถาเปนเชนนั้นเวิรดเคลียเรอรก็จะตองชวย
เขาคนหา
เวิ รดเคลียเรอรจะชวยนักเรียนโดยการใหเขาย อนกลับไปดูเนื้อหาก อนหนานั้นขึ้นไปเรื่อยๆ
จากจุดที่เขาเกิดปฏิกิริยาไปจนกระทั่งคนพบคําศัพทที่เขาไมเขาใจ นอกจากนี้ เวิรดเคลียเรอร
ยังสามารถทดสอบนักเรียนดวยการสปอตเช็ค (spot - checking) ซึ่งหมายถึงการสุม เลือกคําศัพท
ตางๆ จากเนื้อหาที่นักเรียนไดอานไปแลว และตรวจสอบวานักเรียนรูคําจํากัดความของคําศัพท
เหลานั้นหรือไม เวิรดเคลียเรอรจะเลือกคําศัพทที่อยู กอนหนานั้น แลวถามวา "คําจํากัดความ
ของคําวา __________คืออะไร"
ถานักเรียนไมแนใจเกี่ยวกับคําศัพทใดก็ตามหรือใหคําจํากัดความของคําใดผิด นักเรียนจะ
ตองหาคําจํากัดความและทําความเขาใจคําศัพทคํานั้นในพจนานุกรม
7. การเคลียรคําศัพท
เมื่ อพบคําศัพทที่ไมเขาใจแลว จะตองเคลียรความหมายของคําศัพทนั้นในพจนานุกรมจน
เขาใจกระจางชัด โดยใชวิธีการตาม "ขั้นตอนการเคลียรคําศัพท" ที่อธิบายไวในหนา 18
8. อานประโยคเดิมอีกครัง้ หนึ่ง
จากนั้นเวิรดเคลียเรอรจะบอกใหนักเรียนอานเนื้อหาตรงประโยคที่มีคําศัพทและเครื่องหมาย
ที่ไมเขาใจนั้นอีกครั้งหนึ่ง นักเรียนจะทําตามนั้น และถาเขาอานประโยคนั้นไดอยางถูกตองดวย
ความเขาใจแลว ก็ใหเขาอานเนือ้ หาตอไปเรื่อยๆ ปฏิกิริยาที่ไมพึงประสงคอื่นใดอีกก็ตามทีเ่ กิดขึน้
ใหจัดการโดยการคนหาคําศัพทที่ไมเขาใจคําตอไป และทําการเคลียรคําศัพทคํานั้นดังเชนที่กลาว
ขางตน
9. อานออกเสียงตอไปจนกระทั่งจบเนื้อหา
ทําการเคลียรคําศัพทโดยการอานออกเสียงตอไป จนกระทั่งจบเนือ้ หาทั้งหมดที่จะตองเคลียร
คําศัพท
32
เมื่ อมาถึงจุดนี้ นักเรียนสองคนซึ่งกําลังเคลียรคําศัพทโดยวิธีการอานออกเสียงดวยกัน จะ
สลับกัน โดยนักเรียนคนที่ไดรับการเคลียรคําศัพทเสร็จแลว จะเปลี่ยนไปเปนเวิรดเคลียเรอร
ผูท เี่ ปนนักเรียนในตอนนี้ ก็อานออกเสียงและปฏิบัติตามวิธีการอยางเดียวกันนัน้ จนจบเนื้อหา
ตอนเดียวกัน จากนั้นก็อานเนื้อหาสวนใหมที่อยูถัดไป
พวกเขาจะผลัดกันทําการเคลียรคําศัพท เช นนี้ ไปทีละสวนๆ จนกระทั่งนักเรียนทั้งสองคน
อานจบเนื้อหาทั้งหมด
สิ่งที่ควรระวังและเคล็ดลับตางๆ
บางครั้งนักเรียนที่ทําการเคลียรคําศัพทดวยกัน ก็อาจมีการทะเลาะกันหรือเกิดอารมณเสีย
ขึ้นได ถาเหตุการณเชนนี้เกิดขึ้น ขอใหรูไววาไมกรณีใดก็กรณีหนึ่งในสองกรณีนี้ไดเกิดขึ้น
1. นักเรียนถูกบังคับใหเคลียรคําศัพทที่เขาเขาใจดีแลว หรือ
2. คําศัพททไี่ มเขาใจจริงๆ ยังไมถูกคนพบ และถูกอานขามไป
คุณสามารถที่จะแกไขการหาคําศัพทผดิ คําได โดยการถามนักเรียนวาเขาถูกบังคับใหเคลียร
คําศัพทที่เขาเขาใจดีแลวหรือไม หากเปนเชนนั้นเขาจะแจมใสขึ้นและบอกคุณวาคําหรือคําตางๆ
คำใดบางที่เขาถูกบังคับใหเคลียร เมื่อทําดังนี้เรียบรอยแลวก็สามารถดําเนินการเคลียรคําศัพท
ตอไปได
หากทําตามที่กลาวมาขางตนแลวแตยังไมดี ขึ้ น เรารู ไดเลยว านักเรียนไดขามคําศั พทที่ ไม
เขาใจไป ใหเวิรดเคลียเรอรนาํ นักเรียนกลับไปยังจุดทายสุดที่ เขาเขาใจได ดี แลวก็ใหเขาอาน
เนื้อหาจากจุดนั้นเรื่อยไป โดยทําตามวิธีของการเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียง คนหาคํา
ศัพทที่ไมเขาใจที่ไดถูกมองขามหรือละเลยไป โดยปกติแลวจะพบวานักเรียนไดขามคําศัพทที่ไม
เขาใจไปหลายคํา ไมใชเพียงคําเดียว
ผลลัพธสดุ ทายของการเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียงที่ทําอยางถูกตองเหมาะสมก็คือ
นักเรียนที่แนใจวาเขาไมมีคําศัพทที่ไมเขาใจในเนื้อหานั้น ดังนั้นเขาจึงสามารถเรียนหนังสือเลม
นั้นไดอยางงายดายและนําความรูไปประยุกตใชได
การเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียงเปนสิง่ สําคัญทีจ่ ะชวยดํารงไวซงึ่ อารยธรรมความเจริญ
เปนสิ่งจําเปนอยางยิ่งที่จะตองทําการเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียงอยางถูกตองตรง
ตามคําอธิบายในหนังสือ ไมเชนนั้นแลวเราก็จะไมไดรับวิน (ประโยชน) อยางมหาศาลที่ควรจะ
ไดจากมัน
33
การเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียงแบบพิเศษ
เมื่อใดก็ตามที่เรากําลังชวยเด็กๆ ผูที่ใชภาษาตางประเทศ หรือผูที่อานหรือเขียนไดนอย เรา
สามารถใช "วิธีการเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียงแบบพิเศษ"
เชนเดียวกันกับ "วิธีการเคลียรคําศัพทดวยการอานออกเสียง" ในวิธีนี้ก็จะตองใหนักเรียน
อานออกเสียงเพื่อคนหาวาตรงไหนที่เขาไมเขาใจ
วิธีการนี้เปนวิธีการที่งายมากๆ
เวิ รดเคลียเรอรจะตองมีเนื้อหาชุดเดียวกันกับที่นักเรียนกําลังอาน และขณะที่นักเรียนอาน
ใหเวิรดเคลียเรอรดูเนื้อหานั้นตามไปดวย
เราจะสังเกตเห็นสิ่งที่นาประหลาดใจไดหลายอยางทีเดียว
บุคคลนั้นอาจจะอานเวนคําภาษาอังกฤษคํา
วา "is" ทุกครั้งที่คําวา "is" ปรากฏ เขาจะอาน
ขามคําวา "is" ไปเสียเฉยๆ อาจเปนเพราะเขามี
ความหมายแปลกๆ สําหรับคําๆ นี้ เชน คิดวา "is"
แปลวา "Israel" (เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ)
เขาอาจจะไมอานคําวา "didn't" ทุกครั้งที่มี
คํานี้อยู ซึ่งอาจเปนผลมาจากการที่ไมรูวาเครื่อง-
หมาย "apostrophe" (เครื่องหมายยอ [']) นัน้ คือ
อะไร (เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ)
เขาอาจจะอานคําหนึ่งไปเปนอีกคําหนึ่งไปเลย
เชนอาน "หยุด" เปน "เกิดขึ้น" หรืออาน "เขียว"
เปน "หมาย"
หรือเขาอาจจะลังเลในคําบางคํา
ในการเคลียรคําศัพท ขั้นตอนในการเคลียรคําศัพทวิธีนี้คือ
แบบพิเศษนัน้ ผูรบั 1. ใหเขาอานออกเสียง
การเคลียรจะอาน 2. ใหสังเกตการละคํา หรือการเปลี่ยนแปลงคํา หรืออาการลังเลไมแนใจ หรือขมวดคิ้วใน
ออกเสียง และแตละ ขณะที่เขาอาน แลวใหจัดการกับอาการนั้นๆ ทันที
ครัง้ ที่เขาลังเลหรือมี 3. แกไขใหถูกตอง โดยการคนหาความหมายของคําๆ นั้นในพจนานุกรมใหเขา หรืออธิบาย
ปฏิกริ ิยาทางรางกาย ความหมายใหเขาฟง
หรือเปลี่ยนแปลงคํา- 4. จากนั้นใหเขาอานตอ โดยสังเกตการละคํา การเปลี่ยนแปลงคํา อาการลังเล หรือขมวดคิ้ว
ศัพท เวิรด เคลียเรอร 5. ใหทําขอ 2 - 4 ซ้ํา
จะชวยเขาหา และ การทําเชนนี้จะชวยใหคนๆ หนึ่งอานและเขียนไดมากขึ้น
บอกคําจํากัดความ ขั้นตอนตอไปของเขาก็คือ การเรียนรูวิธีการใชพจนานุกรมและการคนหาคําศัพท
ของคําศัพทที่เขา จากนั้นก็ใหศึกษาตําราไวยากรณงายๆ
ไมเขาใจ การเคลียรคําศัพทวิธีนี้ สามารถชวยนักเรียนที่หัวชามากๆ ใหพัฒนาขึ้นมาอยูในระดับที่อาน
ออกเขียนได
34
การประยุกตใชเทคโนโลยี
เพื่อการศึกษา
(APPLYING THE
TECHNOLOGY OF STUDY)
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา คือสะพานที่จะกาวไปสูก ารศึกษา ซึ่งจะยังประโยชนใหกับนักเรียน
ไปอีกยาวนาน แมเขาจะจบจากชั้นเรียนไปแลว
ความแตกตางระหวางนักเรียนที่ "สมองไว" กับนักเรียนที่ "สมองทึบ" หรือนักเรียนที่เรียนได
เร็วมากๆ กับนักเรียนที่เรียนไดชามากๆ แทจริงแลวก็เปนเพียงความแตกตางระหวางนักเรียนที่มี
ความรอบคอบ และ นักเรียนที่ไมมีความรอบคอบเทานั้น
นักเรียนทีร่ อบคอบจะนําเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาไปประยุกตใช เขาจะศึกษาดวยความตั้งใจ
ที่จะเรียนรูบางสิง่ เขาจะจัดการแกไขอุปสรรคตอการศึกษาประการตางๆ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เขา
กําลังอานตําราเรียน ถาเขากําลังอานหนังสือยอหนาหนึ่งอยู แลวทันใดนั้นก็ตระหนักไดวาเขาไม
เขาใจสิง่ ที่เขากําลังอาน เขาจะยอนกลับไปแลวคนหาวาตรงไหนที่เขาสับสน ทีจ่ ุดกอนหนานั้นจะ
ตองมีคําที่เขาไมเขาใจอยู ถาเขาเปนนักเรียนที่รอบคอบ เขาจะไมอานตอไปจนกวาเขาจะคนพบ
วาคําศัพทคําไหนที่เขาไมเขาใจ และคําๆ นั้นหมายความวาอะไร
นั่นคือนักเรียนที่รอบคอบ และความเฉลียวฉลาดของเขาในวิชาที่เรียนก็ขึ้นอยูกับระดับมาก
นอยที่เขานําเทคโนโลยีนี้ไปประยุกตใช ไมไดขึ้นอยูกับความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาแตกําเนิด
หรือสิง่ อื่นใดเลย สิง่ ทีส่ รางความแตกตางคือความรูค วามเขาใจของเขาเกี่ยวกับวิธกี ารศึกษานั่นเอง
หนังสือเลมนี้เปนเพียงสวนเล็กๆ ของเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งเปนวิชาที่ครอบคลุมเนือ้ หา
อยางกวางขวาง แตด วยสิ่งที่คุ ณได อานจากหนังสือเลมนี้ คุณจะได เครื่ องมื อที่ นําไปใชเรียนรู
ทุกสิ่งไดอยางประสบความสําเร็จมากขึน้ และชวยผูอ ื่นใหบรรลุผลไดเชนเดียวกันกับคุณ ■
35
แบบฝกหัดภาคปฏิบตั ิ (PRACTICAL EXERCISES)
สวนนี้เปนแบบฝกหัดใหคุณลองทํา เพื่อเพิ่มความสามารถในการประยุกตใชเทคโน-
โลยีเพื่อการศึกษา แบบฝกหัดเหลานี้จะชวยใหคุณเชี่ยวชาญในการเรียนดวยตัวคุณเอง
และในการชวยคนอื่นๆ ในทุกๆ เรื่องที่พวกเขากําลังพยายามเรียนรู
1 คิทัศดนคติ
ถึ งใครบางคนที่ คุ ณเคยพบหรือรู จัก ที่ รู สึกว าเขารู ทุกอย างเกี่ ยวกั บวิ ชาบางวิ ชาแลว
แบบนี้จะมีผลกระทบกับความสามารถของเขาในการเรียนสิง่ ใหมๆ เกี่ยวกับวิชานั้น
อยางไรบาง
2 คุก.ณเพืจะจั่อนคนหนึ
ดการกับสถานการณเหลานี้อยางไร
่งกําลังเรียนเกี่ยวกับตนไมชนิดตางๆ แตไมรูเลยวาตนไมเหลานั้นมีลกั ษณะ
เปนอยางไร ไมมีตนไมจริงๆ ใหเขาดูในบริเวณใกลๆ คุณจะชวยเขาไดอยางไร
ข. ในการเรียนวิธวี ายน้ํ า เพือ่ นคนหนึง่ เพิง่ เรียนการลอยตัวในน้ําไดไมนาน และขณะนีก้ ็กําลัง
ไดรบั การสอนใหวายขามสระ แตเขากําลังมีปญหาอยางมากกับการวายขามสระ คุณจะชวย
เขาไดอยางไร
ค. เพื่ อนคนหนึ่ งไดลงเรียนหลักสูตรเกี่ ยวกั บวิ ธีการบริหารเงินของเขาเอง แต ขณะนี้ เขา
ตัดสินใจวาเขาไมตองการที่จะเรียนหรือกลับเขาไปในชั้นเรียนอีก คุณจะจัดการกับเรื่องนี้
อยางไร
3 คํใหานศัึกพถึทงนหรืั้นโดยใช
อหาคําศัพทคําหนึ่งที่คุณรูวาคุณไมเขาใจหรือไมแนใจในความหมาย แลวเคลียร
พจนานุกรม
37
เมื่อไดยินเสียงเอะอะ ภรรยาของชาวนาก็รบี วิ่งออกมาจากบานดวยความสงสัยวาเกิดอะไรขึ้น
กับไกของเธอ เธอทันไดเห็นสุนัขจิ้งจอกหายเขาไปในชายปาบริเวณนั้นพรอมกับไกของเธอ
เธอรองลัน่ และมองไปโดยรอบเพื่อหาเจาสุนัข ผูม ีหนาที่หลักในการปองกันไมใหเรื่องแบบนี้
เกิดขึ้น เจาสุนัขทาทางละอายใจอยูไมนอย ภรรยาชาวนาดุดาเจาสุนัขอยางรุนแรงนานสอง
ถึงสามนาทีเกี่ยวกับพฤติกรรมทีเ่ ฉือ่ ยชาของมัน
8 เคลีหาใครสัยรคํากศัคนทีพทด่นวายวิจะไดธีอราับนออกเสี
ประโยชนจากการเคลียรคําศัพทดวยวิธีอานออกเสียง และทําการ
ยงใหกับเขาจนไดผลเปนทีน่ าพอใจ
38
ผลที่ ไดรับจากการนําไปประยุกตใช
ค วามสําเร็จของเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาซึ่ง
ใชกนั อยูอ ยางแพรหลายตัง้ แตในมหาวิทยาลัย พัฒนาการใน
ของสหรัฐฯไปจนถึงโรงเรียนในเขตชุมชนคน ระดับของการอาน
ผิวดําทีแ่ อฟริกาใต ไดปรากฏใหเห็นอยูเ นืองๆ โปรแกรมการสอนกลุมเล็กๆ 40 ชั่วโมง
80%
สําหรับนักเรียนในกรุงวอชิงตัน ดี ซี โดย
โปรแกรมแลวโปรแกรมเลา ใชเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา แสดงใหเห็น ระดับการอาน
39
ครึง่ หนึ่งที่ไมรหู นังสือนั้น นับวาโปรแกรมนี้ไดชวย ใหเขากับคนอืน่ ๆ ได ดวยการแนะนําและคําปรึกษา
ใหการพัฒนาในเรือ่ งที่จําเปนอยางยิง่ ของประเทศ ที่ไดรับ เราจึงไดเรียนรูว ิธีที่จะชวยริชารดใหกลาย
เปนจริงขึน้ มาได เปนคนใหมที่ดีขนึ้ ได ที่สําคัญไปกวานั้นก็คอื คุณ
ล องเปรียบเทียบผลลัพธในเชิงบวกเหลานี้กบั สิ่ง
ที่กําลังเกิดขึ้นโดยทั่วไปในระบบการศึกษาตางๆ
ไดจุดประกายความสนใจของเขาขึ้นมาใหม เขา
ไดรับทักษะขั้นพื้นฐานในการศึกษาซึ่งเขาไมเคย
ของโรงเรียนทั่วโลก เชน โรงเรียนมัธยมศึกษาใจ ไดรบั ตลอดชวงสองปที่ศกึ ษาอยูใ นโรงเรียนของรัฐ
กลางเมืองบางแหงของประเทศสหรัฐอเมริกามีอัตรา หลายๆ แห ง เปน ครั้งแรกในรอบสองปที่ ริชารด
การเลิกเรียนกลางคันถึงเกือบ 50% ขณะที่ 42% ตองการไปโรงเรียนทุกๆ วัน! เขากระตือรือรนทีจ่ ะ
ของผูที่ถกู สํารวจในประเทศอังกฤษไมสามารถคิด อานหนังสือตางๆ เอง เขาเริม่ สนใจในหลากหลาย
รวมราคาแฮมเบอรเกอร มันฝรัง่ ทอดพายแอปเปล วิชารวมทั้งวิชาวิทยาศาสตรและภูมิศาสตร ตัง้ แต
และกาแฟได และนักเรียน700,000 คนที่ สําเร็จ ทีญ่ าติสองคนของเขาสําเร็จการศึกษาจากโรงเรียน
การศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในสหรัฐอเมริกาเมื่อ มัธยมที่มีชื่อเสียงแหงหนึ่ง ริชารดก็ใฝฝนที่จะเขา
ปที่ผานมาไมมคี วามรูพอที่จะอานใบประกาศนีย- เรียนในโรงเรียนแหงนัน้ เชนกัน หลังจากทีร่ ชิ ารดได
บัตรของตนเอง เบือ้ งหลังตัวเลขเหลานีย้ งั มีเรือ่ งราว เรียนรูเกีย่ วกับเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาแลว เขาก็
มากมายเกี่ยวกับความผิดหวังของบุคคล ความฝน ไดรับการตอบรับใหเขาเรียนในโรงเรียนแหงนี้ เรา
ที่พังทลาย คุณภาพงานที่ต่ํ า อาชญากรรมที่เพิ่ม ขอขอบคุณจากใจจริงสําหรับการชวยริชารดใหไป
สูงขึน้ และอนาคตที่มืดมน ถึงยังจุดมุง หมายของเขา"
เ รื่องราวของคนตอไปนีแ้ ตกตางกันออกไป โชคดี
ที่คนเหลานีจ้ ากหลายๆ แหงทั่วโลกคนพบเกีย่ วกับ
ค วามวิตกกังวลจนสับสนวุนวายใจทําใหคณ ุ แม
ชาวลอนดอนคนหนึ่งพยายามเสาะหาความชวย
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและนําความรูนี้ไปประยุกต เหลือใหกับลูกชายวัยสิบขวบของเธอซึ่งมีปญหา
ใช และไดเปลีย่ นแปลงชีวติ ของพวกเขาและคนอืน่ ๆ อยางหนักที่โรงเรียนและไมมสี มาธิในการเรียน ครู
ไปในทางที่ดีขึ้น ทีโ่ รงเรียนตองการใหเขากินยา แตแทนที่จะปลอย
ใ นเมืองสปริงฟลด รัฐเวอรจเิ นีย สามีภรรยาคูห นึง่
รูสึกทุกขใจเกี่ยวกับความลมเหลวในการเรียนของ
ใหเปนเชนนั้นแมของเขาไดพบโปรแกรมสอนพิเศษ
ทีใ่ ชเทคโนโลยีเพือ่ การศึกษา หลังจากทีเ่ ด็กชายได
ลูกชายและปญหาที่เขามีกบั ทางบาน หลังจากได เขาโปรแกรมนี้ไมนานนัก ครูสอนพิเศษของเขาก็
รับการแนะนําใหรูจักกับเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ไดเขียนไวดังนี้
และใหลูกชายเขาศึกษาในโรงเรียนซึง่ ใชเทคโนโลยี "ในวันเสารแรกของการเขาเรียนตามโปรแกรม
นี้ พวกเขาไดเขียนจดหมายที่มขี อความดังนี้ เด็กชายไดใชเวลาสามชั่วโมงในการเรียนรูหลักการ
"กอนที่ริชารดจะเริ่มเรียนที่โรงเรียนของคุณ พืน้ ฐานตางๆ ของเทคโนโลยีเพือ่ การศึกษา ในชวง
ดวยเหตุทเี่ ขาไมสามารถตอบสนองวิธกี ารสอนของ สัปดาหตอ มา แมของเด็กชายไดโทรศัพทมาหาฉัน
โรงเรียนรัฐบาลหลายแหงในกรุงวอชิงตัน ดี ซี ได เนื่องจากเธอสังเกตเห็นการพัฒนาอยางฉับพลัน
เขาจึงตกอยูใ นสภาพทีท่ อ แทและไมสามารถปรับตัว และแทบไมเชื่อในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึน้ กับ
40
ลูกชายของเธอเลย เด็กชายทําการบานไดโดยไมมี ไดอยางปกติและกลายเปนเด็กที่ มีความเชื่อมั่น
ปญหาอะไรเลย วันเสารตอมาเด็กชายกลั บเขา และมีความสุข เด็กดีผจู ะทําประโยชนใหกบั โลกได
เรียนตามโปรแกรมอีกครั้งและเรียนรูมากขึ้นเกี่ยว มากมายอยางไมตอ งสงสัย และเปนประโยชนที่เธอ
กับวิธกี ารเรียน สองสามวันหลังจากนัน้ แมของเด็ก จะไมมโี อกาสไดทําเลยถาหากไมไดวิธีการเรียนรู
ชายบอกกับฉันวาเธอไดรบั โทรศัพทจากบรรดาครู ของมิสเตอรฮับบารดและโรงเรียนมหัศจรรยซงึ่ คุณ
ทีโ่ รงเรียนของลูกชายซึง่ สงสัยวาเกิดอะไรขึน้ กับเขา ไดรวมกันสรางขึ้นมา! ขอบคุณทุกๆ คุณสําหรับ
พวกเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอยางมากนัน้ ความวิรยิ ะอุตสาหะ การชวยเหลือสนับสนุน และ
และอยากรูว าเกิดอะไรขึน้ ปญหาของเด็กคนนี้จะ วิสัยทัศนของคุณ"
ไมอาจแกไขไดดว ยยา เพราะสาเหตุที่แทจริงของ
ปญหาก็เพียงแควาไมเคยมีใครเลยที่สอนใหเขารู เ ด็กชายอายุ 7 ขวบกําลังพบกับความยากลําบาก
ในการเรียน เขาเรียนเรือ่ งเดิมซ้ําไปซ้ํามาเปนเวลา
ถึงวิธีที่จะศึกษา"
ส ามีภรรยาคูห นึง่ ในรัฐออริกอน กังวลใจเกีย่ วกับ
ลูกสาววัย 11 ปซงึ่ แทบจะอานหนังสือไมออกขณะ
เกือบหกเดือน โชคดีที่แมของเขารูจักเทคโนโลยี
เพือ่ การศึกษาและตระหนักไดวาครูของเขาไมไดพบ
และไมไดแกไขอุปสรรคตลอดจนปญหาที่แทจริงที่
เรียนอยูชั้นประถมปที่สองและแทบจะไมมีความ ลูกชายของเธอกําลังเผชิญอยู
มั่นใจในตนเองเลย หลังจากที่ ลูกสาวของเธอได
เขาเรียนในโรงเรียนซึ่งใชเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา "ฉันมีตารางเวลางานและหนาทีต่ า งๆ ที่ยงุ มาก
แมของเด็กหญิงก็เขียนขอความไวดงั นี้ แตฉนั ก็ใหเขานําหนังสือทีเ่ ขาเรียนกลับมาบานและ
ฉันก็พบวาปญหาที่แทจริงคืออะไร เรื่องนี้เกิดขึ้น
"ฉันปวดราวใจมากเมือ่ ลูกสาวของฉันออกมา
เมื่อ 2 เดือนกอน ผลก็คือขณะนี้เขาไดกลายเปน
จากห องสอบเพื่ อเขาเรียนโรงเรียนภาคฤดูรอน
นักเรียนตัวอยางในชั้นเรียน เขาไมใชคนที่ ทําผิด
เธอรองไหน้ําตานองหนาและรองขอแวนตาสีเขียว
ครัง้ แลวครั้งเลาหรือทําความลําบากใหกับคนอื่นๆ
ซึง่ เธอคิดวาเธอจําเปนจะตองสวมจึงจะอานหนังสือ
อีกตอไป เขารักเรียนและทํางานของเขาเสร็จตรง
ออก เธอไดคะแนนต่ํามากๆในการสอบ แตแมวา
ตามเวลา เขามาหาฉันเมื่อสองคืนกอนและสะกด
ทุกคนจะไมคอ ยมัน่ ใจนัก เธอก็ไดรบั โอกาสใหเริม่
ศัพทตางๆ ที่ เขาไดเรียนมาและไดเคลียรความ-
เรียนโปรแกรมภาคฤดูรอ น
หมายแลวใหฉันฟง ฉันรูวาเมือ่ ตอนที่อายุเทาเขา
"ณ ขณะนั้นเสนกราฟชีวิตของเธอซึ่งเคยตก ตั วฉั นเองยังอ านหนั งสือไมคอยจะออกเลย ไม
ดิ่งลงมาก็กลับพุงขึ้นและนับตั้งแตนั้ นก็ไตสูงขึ้น ตองพูดถึงวาจะสะกดคําศัพทอยาง Antarctica,
ไปเรือ่ ยๆ ขณะนี้เธอเรียนอยูที่โรงเรียนภาคฤดูรอ น nurseries, patterns, penguin, polar bear
มาเปนเวลาหลายเดือนแลว และการเปลี่ยนแปลง หรื อ iceberg ฉันตระหนักวาสิ่งที่ฉันไดทําลงไป
ที่เราไดเห็นในตัวเธอก็จัดไดวาเปนปาฏิหาริยจ ริงๆ เพื่อแกปญหาดานการเรียนของเขานี้ อาจเปนการ
"เดี๋ ยวนี้ เธออ านหนั งสื อด วยตั วของเธอเอง ชวยกอบกูอนาคตทางการศึกษาทั้ งหมดของเขา
และแทบไมอยากวางหนังสือลงเลย เธออานเขียน เลยทีเดียว"
41
อภิธานศัพท
การเคลียรคําศัพท (Word Clearing): วิธีการตางๆ เทคโนโลยี (technology): วิธีการตางๆ ที่ใชในการ
ของไซแอนโทโลยีที่ใชในการคนหาคําศัพทที่บุคคล ประยุกตใชศลิ ปะหรือวิทยาศาสตร ซึ่งตรงกันขามกับ
หนึ่งไมเขาใจหรือเขาใจผิดในวิชาที่เขาศึกษาและหาคํา องค ความรู ของวิ ทยาศาสตรห รื อศิ ลปะนั้ น เพี ยง
จํากัดความของคําศัพทเหลานั้นโดยใชพจนานุกรม อยา งเดี ยว
การสาธิตดวยดินน้าํ มัน (clay demonstration): ปลีกตัว (individuate): แยกตัวเองออกจากใครบาง
แบบจําลองที่นักเรียนทําจากดินน้ํามันเพื่อแสดงให คน กลุม ฯลฯ และถอนตัวจากการเขาไปเกี่ยวของ
เห็นถึงการกระทํา คําจํากัดความ วัตถุสิ่งของ หรือ กับสิ่งนั้น
หลั กการหนึ่ งๆ เรี ยกอีกอย างหนึ่ งวา "เคลเดโม เผชิญหนา (confront): อยู ตรงนั้ นโดยไมถอยหนี
(clay demo)" หรือหลบหลีก ความสามารถที่จะเผชิญหนาแททจี่ ริง
เกรเดียนท (gradient): วิธีการแบบคอยเปนคอยไป แลวก็คอื ความสามารถทีจ่ ะอยูต รงนั้นไดอยางสะดวก
ในการทําบางสิ่งบางอยาง โดยทําทีละขัน้ ทีละระดับ ใจและสัมผัสรับรูสิ่งตางๆ ณ ที่นั้นไดนั่นเอง
และแตละขั้นหรือแตละระดับนั้นไมยากจนเกินไป แมส (mass): วั ตถุสิ่ งของตางๆ ที่ มีอยู จริ งหรือสิ่ ง
สามารถทําใหสําเร็จไดอยางงายดาย เพื่อที่วาทายที่ ตางๆ ที่มีอยูจริงในชีวิต ซึ่งไมใชซิกนิฟแคนซ ดูคํา
สุดแลวจะสามารถทําสิ่งที่ยากและซับซอนใหสําเร็จ วา ซิกนิฟแคนซ ในอภิธานศัพทนี้ดวย
ไดงายขึ้น นอกจากนี้ คําวา เกรเดียนท ยังใชเรียก วิน (win): การพัฒนาปรับปรุงในเรื่องใดก็ตามที่ทํา
แตละลําดับขั้นที่ตองปฏิบัติในวิธีการดังกลาวดวย ไดสําเร็จตามที่ตองการ ตัวอยางของวินอาจไดแก
คําศัพททไี่ มเขาใจ (misunderstood word): คําศัพท การมีความสามารถในการสือ่ สารเพิม่ มากขึน้ มีความ
ที่ เราไม ท ราบความหมายหรื อเข า ใจความหมาย รูสึกสุขกายสุขใจเพิ่มมากขึน้ หรือมีความแนใจมาก
อยางผิดๆ ขึ้นในบางแงมุมของชีวิต
เคลียรคําศัพท (word clear): หาคําจํากัดความของ เวิรดเคลียเรอร (word clearer): ผูที่ชวยบุคคลอื่น
คําศัพทที่คนๆ หนึ่งยังไมเขาใจอยางถองแทในสิ่งที่ คนหาและเคลียรคําศัพทตา งๆ ที่คนๆ นั้นไมเขาใจ
เขากําลังศึกษาอยูโดยใชพจนานุกรม สภาวะแหงการทํา (doingness): การลงมือปฏิบัติ
ซิกนิฟแ คนซ (significance): ความหมายหรือความ หรือทํากิจกรรมบางอยาง
คิดตางๆ หรือทฤษฎีของบางสิ่งบางอยาง ซึ่งไมใช สะลึมสะลือ (dope off ): รูสึกเหนื่อย งวงนอน ความ
แมสของสิ่งนั้น ดูคําวา แมส ในอภิธานศัพทนี้ดวย คิดสับสนไมชดั เจน ราวกับถูกวางยาหรือติดยามา
ไซแอนโทโลยี (Scientology): ปรัชญาศาสนาเพื่อ อุปกรณสาธิต (demonstration kit): ชุดอุปกรณซึ่ง
การประยุกตใช แอล รอน ฮับบารดเปนผูคิดคนขึน้ ประกอบไปดวยสิ่งของเล็กๆ ชนิดตางๆ เชน จุกไม-
ไซแอนโทโลยีเปนการศึกษาและการจัดการกับจิต- กอก ฝาขวด คลิปหนีบกระดาษ ปลอกปากกา ยาง
วิ ญญาณในความสัมพันธกั บตัวมันเอง จักรวาล รัดของ เปนตน เราสามารถใชสิ่งของชิ้นเล็กๆ เหลา
ตางๆ และชีวิ ตอื่นๆ ไซแอนโทโลยีมาจากภาษา นั้ นแทนส วนตางๆ ของสิ่ งที่ เรากําลั งเรียนอยู เรา
ลาตินคําวา scio ซึ่งแปลวา "รู" และภาษากรีก logos สามารถเคลื่อนที่สงิ่ ของชิ้นเล็กๆ นั้นไปมาตามความ
ซึ่งแปลวา "คํา หรือรูปแบบภายนอกที่แสดงถึงและ เกี่ยวเนื่องสัมพันธระหวางของแตละชิ้น เพื่อที่จะได
ทําใหรูถึงความนึกคิดภายใน" ดังนั้น ไซแอนโทโลยี เห็นถึงกลไกและการกระทําตางๆ ที่เกี่ยวของกับแนว-
จึงหมายถึง "การรูวิธีที่จะรู" คิดนั้นๆ เรียกอีกอยางหนึ่งวา "เดโมคิท (demo kit)"
42
เกี่ยวกับ
แอล รอน ฮับบารด
ร อนเกิดที่ เมืองทิลเดน รัฐเนบราสกา เมื่อวั นที่
13 มีนาคม ค.ศ.1911 เสนทางในการคนพบและ
อุทิศตนเพื่อเพื่อนมนุษยเริ่มขึน้ ตั้งแตวัยเยาว รอน
บันทึกเกี่ยวกับสมัยเด็กของเขาวา “ผมอยากเห็น
ทุกคนมีความสุข และไมอาจเขาใจไดวาทําไมคน
เหลานั้นจึงไมมีความสุข” และนั่นคือความรูสึกที่
นําทางชีวิตเขาในอนาคต เมือ่ อายุ 19 ป เขาออก ไปสามารถอานและเขาใจได และกลายเปนที่นิยม
เดินทางเปนระยะทางมากกวา 250,000ไมล สํารวจ อยางมากในเวลาตอมา “ไดอะเนติกส” เปดยุคใหม
ดูวัฒนธรรมของชวา ญีป่ ุน อินเดีย และฟลิปปนส ใหกับความหวังของมนุษยชาติ และไดพารอนกาว
ค.ศ.1929 เขากลับมายังประเทศสหรัฐอเมริกา เขาสู ชวงใหมของชี วิต อย างไรก็ตาม รอนยังคง
เข าศึ กษาตามหลั กสู ตรและเรี ยนคณิ ตศาสตร สานตอการวิจยั ของเขาตอไปอีก และในขณะที่ได
วิศวกรรมศาสตร รวมทั้ งนิ วเคลียรฟสิกสซึ่งเปน มีการคนพบสิ่งตางๆ มากมาย ปลาย ค.ศ. 1951
วิชาใหม วิชาเหลานี้กลายมาเปน เครือ่ งมือสําคัญ ปรัชญาเชิงศาสนาเพือ่ การประยุกตใชไซแอนโทโลยี
สําหรับงานวิจัยอันตอเนื่อง และเพื่อที่จะหาทุนใน ก็ไดเกิดขึ้น
การวิจยั รอนจึงเริม่ งานเปนนักเขียนในตนทศวรรษ เพราะวาไซแอนโทโลยีอธิบายแงมุมทั้งหมด
1930 และไมนานหลังจากนัน้ เขาไดกลายเปนหนึง่ ของชีวิต จึงไมมสี วนใดของการดํารงอยูของมนุษย
ในบรรดานักเขียนนิยายที่มีคนอานมากที่ สุด แต ที่แอล รอน ฮับบารด ไมไดกลาวถึงในผลงานตอๆ
เขาก็ไมเคยทิ้งจุดมุงหมายสําคัญของชีวิตเขา รอน มา การอาศัยอยูใ นหลายๆ แหง ทั้งในสหรัฐอเมริกา
ยังคงทําการวิจยั ดวยการออกเดินทาง และคนควา และอังกฤษ ทําใหผลการวิจยั อยางตอเนือ่ งของเขา
มากมาย ชวยแกปญ หาตางๆ ของสังคม อาทิเชน มาตรฐาน
เมื่อเกิดสงครามโลกครั้ งที่ สอง รอนเขาเปน การศึกษาที่เสื่อมทรามลงและการใชยาในทางที่
ทหารในกองทั พเรือของสหรัฐอเมริกา โดยดํารง ผิดอยางแพรหลาย
ตําแหนงรอยโทและเปนหัวหนาหนวยปองกันเรือ เมื่ อรวบรวมผลงานที่ แอล รอน ฮั บบาร ด
ดําน้ําขาศึก เขาตาบอดเปนบางสวนและขาพิการ สรางไวในรูปเทปบันทึกการบรรยาย หนังสือ และ
จากการไดรับการบาดเจ็บในการสูรบ เขาถูกวินิจ- บทความมากมายทางด านไซแอนโทโลยี และ
ฉัยวาเปนคนพิการตลอดชีวิตในปค.ศ.1945 แต ไดอะเนติกส ทั้งหมดบรรจุถอ ยคําไวถงึ 40 ลานคํา
ดวยการประยุกตใชทฤษฎีเกี่ยวกับจิตใจที่เขาคิด และเปนมรดกที่ชีวิตหนึ่ งทิ้งไวเบื้องหลัง เมื่อเขา
คนขึน้ ไมเพียงจะชวยเพื่อนทหารไดเทานั้น ตัวเขา จากโลกนี้ไปในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ.1986 แต
เองก็กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม การจากไปของแอล รอน ฮับบารด ไม ใช จุดจบ
หลังจากทุ มเทเวลาวิจัยอยางเต็มที่ อีก 5 ป เพราะมีคนอ านหนั งสือของเขากวารอยลานเลม
การคนพบของรอนก็ปรากฏแกสายตาชาวโลก ใน อยูท วั่ โลกและมีคนอีกหลายลานคนที่ใชเทคโนโลยี
หนังสือ “ไดอะเนติกส:วิทยาศาสตรสมัยใหมเกี่ยว ของเขาในชีวิตประจําวัน เพื่อยกระดับชีวิตใหดขี นึ้
กับสุขภาพจิต ” ในฐานะคูม อื เลมแรกเกีย่ วกับจิตใจ ไมเกินไปเลยหากจะกลาววา โลกยังไมเคยมีมิตร
มนุษย ที่เขียนดวยถอยคําธรรมดาเพื่อใหผูคนทั่ว คนใดที่ยิ่งใหญไปกวาเขาคนนี้ ■
43
องคกรไซแอนโทโลยี
ติดตอองคกรใกลบานคุณ หรือเยี่ยมชมไดที่ www.volunteerministers.org
สหรัฐอเมริกา COLUMBUS
Scientology Organization
Central Ohio
KANSAS CITY
Scientology Organization
Kansas City
ALBUQUERQUE 30 North High Street 2 East 39th Street
Columbus, Ohio 43215, USA Kansas City,
Scientology Organization Tel: 001-614-221-5024 Missouri 64111, USA
New Mexico www.scientology-columbus.org Tel: 001-816-753-6590
8106 Menaul Boulevard N.E. www.scientology-kansascity.org
Albuquerque, DENVER
New Mexico 87110, USA
Tel: 001-505-275-8210
Scientology Organization LAS VEGAS
Colorado
www.scientology-albuquerque.org 3385 South Bannock Street Scientology Organization
Englewood, Nevada
AUSTIN Colorado 80110, USA 846 East Sahara Avenue
Tel: 001-303-789-7668 Las Vegas, Nevada 89104, USA
Scientology Organization www.scientology-denver.org Tel: 001-702-731-1500
Texas www.scientology-lasvegas.org
2200 Guadalupe DETROIT
Austin, Texas 78705, USA LONG ISLAND
Scientology Organization
Tel: 001-512-474-6631 Michigan
www.scientology-austin.org 28000 Middlebelt Road Scientology Organization
Farmington Hills, Long Island
BATTLE CREEK Michigan 48334, USA 64 Bethpage Road, Hicksville,
Tel: 001-248-538-4675 New York 11801-2850, USA
Scientology Organization www.scientology-detroit.org Tel: 001-516-939-2250
Battle Creek www.scientology-longisland.org
66 E. Michigan Avenue, FLORIDA
Battle Creek,
Scientology Organization
LOS ANGELES
Michigan 49017, USA AND VICINITY
Tel: 001-269-965-5203 120 Giralda Avenue
www.scientology-battlecreek.org Coral Gables, Scientology Organization
Florida 33134, USA Los Angeles
Tel: 001-305-445-7812 1514 L. Ron Hubbard Way
BOSTON
Los Angeles,
Scientology Organization
GEORGIA California 90027, USA
Boston Scientology Organization www.scientology-losangeles.org
448 Beacon Street Georgia
Boston, 1611 Mt. Vernon Road Scientology Organization
Massachusetts 02115, USA Dunwoody, Pasadena
Tel: 001-617-266-9500 Georgia 30338, USA 1277 East Colorado Boulevard
www.scientology-boston.org Tel: 001-770-522-8983 Pasadena,
www.scientology-atlanta.org California 91106, USA
Tel: 001-626-792-7533
BUFFALO HAWAII www.scientology-valley.org
Scientology Organization Scientology Organization Scientology Organization of
Buffalo Hawaii the Valley
836 Main Street 1159 Fort Street Mall 15643 Sherman Way
Buffalo, New York 14202, USA Honolulu, Hawaii 96813, USA Van Nuys,
Tel: 001-716-856-3910 Tel: 001-808-545-5804 California 91406, USA
www.scientology-buffalo.org www.scientology-hawaii.org Tel: 001-818-947-0600
www.scientology-valley.org
CINCINNATI ILLINOIS
Scientology Organization Ohio
Scientology Organization LOS GATOS
Illinois
215 West 4th Street, 5th Floor 3011 North Lincoln Avenue Scientology Organization
Cincinnati, Chicago, Los Gatos
Ohio 45202-2670, USA Illinois 60657-4207, USA 650 Saratoga Avenue, San Jose,
Tel: 001-513-421-2927 Tel: 001-773-348-7788 California 95129, USA
www.scientology-cincinnati.org www.scientology-chicago.org www.scientology-losgatos.org
44
MIAMI PORTLAND TAMPA
Scientology Organization Scientology Organization Scientology Organization
Florida Portland Tampa
120 Giralda Avenue 709 SW Salmon Street 3102 North Habana Avenue
Coral Gables, Portland, Oregon 97205, USA Tampa, Florida 33607, USA
Florida 33134, USA Tel: 001-813-872-0722
Tel: 001-503-228-0116
www.scientology-miami.org www.scientology-tampa.org
www.scientology-portland.org
MINNEAPOLIS WASHINGTON, DC
SACRAMENTO Yayason Scientology
Scientology Organization
Minneapolis Twin Cities Scientology Organization Organization
1011 Nicollet Mall Sacramento Washington, DC
Minneapolis, 825 15th Street 1701 20th Street N.W.
Minnesota 55403, USA Sacramento, Washington, DC 20009, USA
Tel: 001-612-338-5111 California 95814-2096, USA Tel: 001-202-797-9826
www.scientology-minneapolis.org Tel: 001-916-448-5891 www.scientology-washingtondc.org
www.scientology-sacramento.org
MOUNTAIN VIEW
Scientology Organization SALT LAKE C ITY
สหราชอาณาจักร
Mountain View BIRMINGHAM
117 Easy Street Scientology Organization Utah
1931 South 1100 East Scientology Organization
Mountain View, Birmingham
California 94043-3706, USA Salt Lake City,
Utah 84106, USA 8 Ethel Street
Tel: 001-650-969-5262 Winston Churchill House
www.scientology-mountainview.org Tel: 001-801-485-9992
www.scientology-saltlakecity.org Birmingham, England B2 4BG
www.scientology-birmingham.org
NEW HAVEN
Scientology Organization SAN JOSE BRIGHTON
Connecticut Scientology Organization Scientology Organization
909 Whalley Avenue Stevens Creek Brighton
New Haven, 1865 Lundy Avenue Third Floor,
Connecticut 06515-1728, USA San Jose, 79-83 North Street,
Tel: 001-203-387-7670 California 95131, USA Brighton, East Sussex,
www.scientology-newhaven.org Tel: 001-408-249-7400 England, BN1 1ZA
www.scientology-sanjose.org www.scientology-brighton.org
NEW YORK CITY
Scientology Organization
EAST GRINSTEAD
SANTA BARBARA Scientology Organization
New York
227 West 46th Street Scientology Organization Yayason Saint Hill
New York, Santa Barbara Saint Hill Manor,
New York 10036-1409, USA 524 State Street East Grinstead, West Sussex,
Tel: 001-212-921-1210 Santa Barbara, England, RH19 4JY
www.scientology-newyork.org California 93101, USA www.scientology-sthillfdn.org
Tel: 001-805-963-8931
Scientology Organization
www.scientology-santabarbara.org
EDINBURGH
2250 3rd Avenue
Hubbard Academy of
New York,
New York 10035, USA SEATTLE Personal Independence
20 Southbridge
Tel: 001-212-828-1825
Scientology Organization Edinburgh,
PHILADELPHIA Washington State Scotland, EH1 1LL
601 Aurora Avenue North www.scientology-edinburgh.org
Scientology Organization Seattle,
Pennsylvania Washington 98109, USA LONDON
1315 Race Street Tel: 001-206-284-0604 Scientology Organization
Philadelphia, www.scientology-seattle.org London
Pennsylvania 19107, USA 146 Queen Victoria St.
Tel: 001-215-564-1547 London, England, EC4V 4BY
www.scientology-philadelphia.org ST. LOUIS
www.scientology-london.org
Scientology Organization
PHOENIX Missouri MANCHESTER
Scientology Organization 6901 Delmar Boulevard Scientology Organization
Arizona University City, Manchester
2702 44th Street, Suite A-100 Missouri 63130, USA 258 Deansgate
Phoenix, Arizona 85008, USA Tel: 001-314-727-3747 Manchester, England, M3 4BG
www.scientology-phoenix.org www.scientology-stlouis.org www.scientology-manchester.org
45
PLYMOUTH
Scientology Organization
นิวซีแลนด Colonia Roma, C.P. 06700
Mexico, D.F., Mexico
www.scientologymexico-
Plymouth AUCKLAND monterrey.org
41 Ebrington Street Scientology Organization
Plymouth, Devon
England, PL4 9AA
New Zealand
532-534
สาธารณรัฐ
www.scientology-plymouth.org Ellerslie/Panmure Highway,
Panmure, เวเนซุเอลา
ออสเตรเลีย Auckland 1006,
New Zealand CARACAS
www.scientology-auckland.org Dianetics Cultural
ADELAIDE Organization, A.C.
Scientology Organization
Adelaide
ละตินอเมริกา Calle Caciquiare
Entre Yumare y Atures,
Quinta Shangai
18 Waymouth Street
Adelaide,
South Australia 5000,
เม็กซิโก Urbanización El Marquez
Caracas, Venezuela
www.scientology-caracas.org
Australia KOTA MEKSIKO
www.scientology-adelaide.org VALENCIA
Dianetics
BRISBANE Cultural Association, A.C., Dianetics Cultural
Belisario Domínguez #17-1 Association, A.C.
Scientology Organization Villa Coyoacán, Avda. Bolívar Norte # 141-45
Brisbane Colonia Coyoacán, Urbanización El Viñedo
2F, 106 Edward Street, C.P. 04000 Mexico, D.F., Edificio “Mi Rifugio”
Brisbane, Queensland 4000 Mexico A 30 metros de Ave
Australia www.scientologymexico- Monseñor Adams
www.scientology-brisbane.org coyoacan.org Valencia, Edo.
Institute of Applied Carabobo, Venezuela
CANBERRA Philosophy, A.C. www.scientology-venezuela.org
Municipio Libre #40,
Scientology Organization
Canberra
Unit 4, 7-11 Botany St.
Esquina con Mira Flores
Colonia Portales,
C.P. 03570 Mexico, D.F.,
ยุโรป
Phillip, Canberra City,
ฝรั่งเศส
Mexico
ACT 2606, Australia www.scientologymexico-
www.scientology-canberra.org portales.org
SYDNEY
Organization, A.C.
Avenida Cuahutemoc 576 ออสเตรีย
Entre Xola y Morena
Scientology Organization Colonia Narvarte, C.P. 03220 VIENNA
Sydney Mexico, D.F., Mexico Church of Scientology Austria
201 Castlereagh Street www.scientologymexico-xola.org Capistrangasse 4
Sydney, Dianetics Cultural A-1060 Vienna, Austria
New South Wales 2000, Organization, A.C. Tel. 0043-1-522 36 18
Australia San Luis Potosí 196 #3er Piso scientologyaustria@utanet.at
www.scientology-sydney.org Esq. Medellin www.scientology-vienna.org
46
ศูนย ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด &
SCIENTOLOGY CENTER
CHANGHUA
No.463, Sec. 2, Jhangnan Rd.
ไซแอนโทโลยี โอเชียเนีย
Internasional
Changhua City
Changhua County 500
Taiwan (R.O.C.)
Scientology Centers Office SCIENTOLOGY CENTER
สํานักงาน Australia, New Zealand
And Oceania
CHIAYI
ระหวางประเทศ 20 Dorahy St.
Dundas, NSW 2117
2F., No.49-1, Chueiyang Rd.
Chiayi City 600
Taiwan (R.O.C.)
Internasional Australia
Scientology Centers Tel: 61 2 9638 5200 SCIENTOLOGY CENTER
6331 Hollywood Boulevard, smianzo@smi.org
TAINAN
Suite 501, Los Angeles,
ไตหวัน
CA 90028-6313 3F., No.70, Cingnian Rd.
USA West Central Dist.
Tainan City 700
SCIENTOLOGY CENTER Taiwan (R.O.C.)
อเมริกาตะวันตก TAIPEI SCIENTOLOGY CENTER
Internasional 11F., No.82 KAOHSIUNG
Scientology Centers Office Sec. 1 Jhongshan N. Rd. No.216, Furen Rd.
Western United States Jhongshan Dist. Lingya Dist.
1308 L. Ron Hubbard Way Taipei City 104 Kaohsiung City 802
Los Angeles, California 90027 Taiwan (R.O.C.) Taiwan (R.O.C.)
USA
SCIENTOLOGY CENTER SCIENTOLOGY CENTER
Internasional CAPITAL PINGTUNG
Scientology Centers Office
Eastern United States 1F., No.354, No.115, Jianhua 1st St.
349 W. 48th St. Sec. 5 Nanjing E. Rd. Pingtung City
New York, New York 100367 Songshan Dist., Pingtung County 900
USA Taipei City 105 Taiwan (R.O.C.)
Taiwan (R.O.C.)
Internasional SCIENTOLOGY CENTER
Scientology Centers Office SCIENTOLOGY CENTER FONGYUAN
Flag Land Base TONGQU 5F., No.16,
210 South Fort Harrison 6F., No.208,
Avenue Lane 298
Sec. 4 Jhongsiao E. Rd. Nanyang Rd.
Clearwater, Florida 337567 Sinyi Dist.
USA Fongyuan City
Taipei City 110 Taichung County 420
Taiwan (R.O.C.) Taiwan (R.O.C.)
ยุโรป SCIENTOLOGY CENTER
DAAN
SCIENTOLOGY CENTER
Internasional TAICHUNG
Scientology Centers Office No.102-1 No.82-2,
European Chaojhou St. Wucyuan 5th St.
Store Kongensgade 53 Jhongjheng Dist. West Dist.,
1264 Copenhagen K Taipei City 100 Taichung City 403
Denmark Taiwan (R.O.C.) Taiwan (R.O.C.)
47
สั่งซื้อหนังสือหรือเทปของแอล รอน ฮับบารด
ซึ่งไมสามารถหาซื้อไดจากองคกรทองถิ่นใกลบานทาน
โดยติดตอไปยังสํานักพิมพที่มีเครือขายทั่วโลก ดังตอไปนี้
NEW ERA NEW ERA PUBLICATIONS BRIDGE PUBLICATIONS,
PUBLICATIONS AUSTRALIA PTY LTD. INC.
INTERNATIONAL APS 20 Dorahy Street, Dundas 5600 E. Olympic Boulevard
Smedeland 20 New South Wales 2117
Commerce,
2600 Glostrup, Denmark Australia
Tel: 0061-2 96 38 29 88 California 90022
Tel: 0045-3373-6500
Tel: 0045-3373-6666 nepa@bigpond.net.au Tel: 001-800-722-1733
Fax. 0045-3373-6633 Fax. 001-323-953-3328
books@newerapublications.com KONTINENTAL www.bridgepub.com
www.newerapublications.com PUBLICATIONS PTY LTD.
6th Floor, Budget House CONTINENTAL
NEW ERA 130 Main Street PUBLICATIONS
PUBLICATIONS GROUP Johannesburg 2001 LIAISON OFFICE ASIA
Pr. Mira, VVC Building 265 South Afrika
129223 Moscow, Russia Tel: 0027-11 331 6621 No. 231, Cisian 2nd Road
Tel: 007-095 107 50 20 nepaf@newerapublications.com Kaohsiung City
info@new-era.ru Taiwan (R.O.C.)
NEW ERA PUBLICATIONS
NEW ERA PUBLICATIONS ITALIA S.R.L. ERA DINÁMICA
UK, LTD. Via Cadorna, 61 EDITORES S.A. DE C.V.
Saint Hill Manor 20090 Vimodrone (MI), Italy
East Grinstead, West Sussex Tel: 0039 0236 505 373 Tonalá #200, Col. Roma Sur
RH19 4JY, England Filippo or Evio Delegación Cuauhtemoc
Tel: 0044-1342 314 846 0039-022 7409 271 C.P. 06760
nepuk@newerapublication.com info@newera.it México D.F., México